
ย้อนดราม่าระหว่าง พลอย เฌอมาลย์ และ โต้ง ทูพี






ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram/chermarn
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
ข่าวเด็ด ดวงดี บันเทิงไวรัล ทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram/chermarn
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
โอกาสรุ่งจากโลกออนไลน์ กลายเป็นคำถามฮิตของยุคนี้ เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทุกคนก็สามารถเริ่มต้นสร้างรายได้ผ่านมือถือ ด้วยแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Facebook, Shopee หรือแม้แต่ LINE OA วันนี้เราจะพาเปิดไพ่ดูดาว เช็กให้ครบทั้ง 12 ราศีว่าใครมีเกณฑ์โกยเงินจากโลกออนไลน์ ใครควรเริ่มตอนนี้ ใครควรรอ และใครที่ต้องระวังเรื่องการลงทุน
ปีนี้คือช่วงทองของชาวสิงห์ โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง ดาวแห่งชื่อเสียงและการสื่อสารเปิดทางให้เต็มที่ ใครที่อยากเริ่มทำเพจ เปิดร้านไลฟ์ขายของ หรือปั้นตัวเองเป็น Creator ควรลงมือทันที ยิ่งกล้า ยิ่งได้ ยิ่งลงมือ ยิ่งปัง!
โอกาสรุ่งจากโลกออนไลน์ ของราศีนี้เรียกได้ว่าพุ่งไม่หยุด หากเน้นทำคอนเทนต์ที่ตรงกับความถนัด เช่น ความสวยงาม แฟชั่น หรือเครื่องรางเสริมดวง จะได้เงินเร็ว ลูกค้าเข้าเพียบ
ดาวพุธกับดาวนวัตกรรมส่งแรงหนุนให้คุณคิดอะไรใหม่ ๆ ได้ตลอด ใครที่ชอบใช้เทคโนโลยี ลองลงมือทำคอร์สออนไลน์ ขายของผ่านแอป หรือสร้างเพจรีวิวสินค้า จะมีโอกาสได้เงินจากหลายช่องทางพร้อมกัน
โอกาสรุ่งจากโลกออนไลน์ สำหรับกุมภ์ จะชัดเจนมากหากเน้น “ความรู้” และ “ความคิดสร้างสรรค์” เป็นจุดขาย
ถ้าพูดถึงสายมู ราศีกรกฎคือตัวจริงเสียงจริง ครึ่งปีหลังนี้จะได้รับพลังจากดาวศรัทธาและเสน่ห์ มีเกณฑ์โดดเด่นในการทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับพลังงานบวก ความเชื่อ หรือเครื่องราง หากเปิดรับพรีออเดอร์เครื่องรางจากต่างประเทศ หรือทำบริการเสริมดวงทางไลน์ จะมีลูกค้ารอเพียบ
อย่าลืมว่า โอกาสรุ่งจากโลกออนไลน์ ของคุณนั้นต้องใช้ “ความรู้สึก” นำทาง
เพื่อให้ ดวงครึ่งปีหลัง 2568 รวยจากออนไลน์ ทำงานอย่างเต็มที่ อย่าลืมเสริมแรงดวงด้วยเคล็ดลับเล็ก ๆ ดังนี้:
แม้ดวงจะส่งเสริม แต่ถ้าไม่ลงมือ โอกาสก็ไม่เกิด การที่คุณอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ แปลว่าคุณสนใจจริง ลองเริ่มจากเล็ก ๆ เช่น สร้างเพจ เขียนคอนเทนต์ หรือถ่ายคลิปสั้น แล้วสังเกตผล
ปีนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ ดวงครึ่งปีหลัง 2568 รวยจากออนไลน์ บอกไว้ว่า “คนที่กล้า คนที่เริ่ม” คือคนที่มีโอกาสรวยก่อนใคร!
หากต้องการตรวจสอบดวงรายเดือนเพิ่มเติม เข้าไปดูที่ ดูอะไร ดูดวง เพื่อเสริมความมั่นใจก่อนลงมือ
กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการสงฆ์ เมื่อพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ “เจ้าคุณแย้ม” เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 เข้าสู่กระบวนการสอบสวนของตำรวจ บก.ปปป. หลังถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้คาดว่าไหลเข้าขบวนการเว็บพนันออนไลน์
คดีเริ่มจากการสืบสวนเครือข่ายเว็บพนันที่มีบัญชีต้องสงสัยหลายรายการ หนึ่งในนั้นปรากฏชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการเงินของวัดไร่ขิง ซึ่งเชื่อมโยงกับหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกจับได้ว่ารับโอนเงินจากวัด ก่อนจะส่งต่อให้กลุ่มพนัน
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 พระธรรมวชิรานุวัตรเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ด้วยตนเอง โดยให้เหตุผลว่าต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่างในการสอบสวน
เบื้องต้นยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหากับพระธรรมวชิรานุวัตรโดยตรง แต่การสอบสวนกำลังขยายผลไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเงินวัด ซึ่งอาจรวมถึงฝ่ายเลขาฯ หรือคนใกล้ชิด
ข้อมูลจากการสอบสวนเผยว่าเงินจากบัญชีของวัดไร่ขิงหลายครั้งถูกโอนไปยังบัญชีบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหญิงสาวที่ทำหน้าที่ “ตัวกลาง” โอนเงินต่อไปยังเครือข่าย
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนมากกว่า 8 เดือน เพื่อแกะรอยธุรกรรมทั้งหมด ก่อนจะนำไปสู่การออกหมายจับหญิงคนดังกล่าว และเชื่อว่าคดีนี้อาจมี “ผู้มีอิทธิพล” หรือบุคคลระดับสูงในวงการสงฆ์เกี่ยวข้อง
เมื่อข่าวนี้กระจายออกไป สังคมออนไลน์ต่างพากันตั้งคำถามว่า ทำไมเงินวัดที่ญาติโยมนำมาทำบุญกลับถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโยงถึงการพนันออนไลน์ที่เข้าข่ายผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม
หลายเสียงเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดต่าง ๆ อย่างเข้มข้น และเรียกร้องความโปร่งใสจากพระชั้นผู้ใหญ่
ถึงตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาโดยตรงกับพระธรรมวชิรานุวัตร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และหากพบพยานหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายไม่เว้นแม้แต่พระชั้นผู้ใหญ่
ขณะที่ชาวพุทธจำนวนมากยังเฝ้าจับตาความคืบหน้าของคดี เพราะเงิน 300 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ใช่แค่เงิน แต่หมายถึง “ศรัทธา” ที่กำลังถูกตั้งคำถาม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร (https://www.dooarai.com/)
Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official
ต้องบอกเลยว่าเกิดกระแสในโลกออนไลน์ขึ้นมาทันที เมื่อพระเอกหนุ่มชื่อดัง “อั้ม อธิชาติ” ได้โพสต์คลิปเล่นกับน้องหมาในโซเชียล
แต่สิ่งที่ชาวเน็ตให้ความสนใจกลับไม่ใช่คลิปน้องหมาที่หนุ่มอั้ม อธิชาติ ลงแต่กลับเป็นเสียงพากย์ของ “ผู้หญิง” ที่ดังออกมาจากในคลิป
ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างออกมาแสดงความคิดเห็นและรู้สึกว่าเสียงดังกล่าวคุ้นเคยอย่างมาก
นอกจากนี้ก็ยังมีชาวเน็ตบางคนถึงกับสงสัยว่าเป็นเสียงของนักแสดงสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” หรือไม่
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 หนุ่มอั้ม อธิชาติ ก็ได้มีโอกาสออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่าตนเองมีเพจเกี่ยวกับสุนัขที่ทำขึ้นเอง และอยากแชร์คลิปข้อมูลที่มีการพากย์เสียง
ซึ่งเสียงพากย์ในคลิปเป็นเสียงของผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้จักกันมานานกว่า 20 ปี และยังเป็นผู้ช่วยของคุณมดดำอีกด้วย โดยผู้ช่วยคนนี้เคยพากย์เสียงมาตั้งแต่ช่วงที่อั้มไปช่วยเหลือน้ำท่วม
เกี่ยวกับประเด็นที่หลายคนคาดเดาว่าเสียงพากย์ดังกล่าวเป็นของเจนี่นั้น หนุ่มอั้มเผยว่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเสียงนี้คล้ายเสียงของเจนี่มาก ถึงขั้นละเลยดูน้องหมาไปเลย และมุ่งฟังแต่เสียงอย่างเดียว แม้ว่าหนุ่มอั้มจะได้เขียนข้อความอธิบายไปแล้ว แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น จึงได้ถ่ายคลิปชี้แจงว่าเป็นผู้ช่วยจริง ๆ ไม่ใช่เจนี่ และขอความร่วมมือไม่พาดพิงถึงบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
หนุ่มอั้มยังเน้นว่า การทำคลิปเพียงต้องการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขเท่านั้น และไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดไปไกลกว่านี้ จึงขอให้ผู้ติดตามรับข้อมูลจากคลิปและข้อความชี้แจงโดยตรง เพื่อลดความเข้าใจผิดและหลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงผู้อื่นอย่างไม่จำเป็น
ขอบคุณข้อมูลจาก วันบันเทิง oneบันเทิง
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
คู่รักดาราที่ทำให้แฟนๆ ฟินกันทั่วประเทศคงหนีไม่พ้น “อาเล็ก ธีรเดช” และ “โบว์ เมลดา” ที่ล่าสุดเผยโมเมนต์หวานๆ กับแชทแรกที่ทักไปจีบกัน ทำเอาโซเชียลละลายไปตามๆ กัน
อาเล็กเล่าว่า พบกับโบว์ครั้งแรกในปี 2564 ขณะถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง “โอเครึเปล่า” ของบอย ตรัย ซึ่งโบว์เป็นนางเอกของเอ็มวี หลังจากนั้น ทั้งคู่เริ่มพูดคุยกันผ่านไอจี ก่อนที่อาเล็กจะตัดสินใจทักไปจีบอย่างจริงจัง
แชทแรกที่ทำให้ใจเต้น
อาเล็กส่งข้อความแนะนำตัวอย่างละเอียดถึงโบว์ว่า
“สวัสดีครับ ผมอาเล็ก ธีรเดช อายุเท่านี้ ชอบกินอะไร ทำอะไรบ้าง…”
โบว์ตอบกลับด้วยข้อความแนะนำตัวในลักษณะเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยความเข้าใจและความจริงใจ
เมื่ออาเล็กกลับจากต่างประเทศ โบว์ได้ไปเซอร์ไพรส์ที่สนามบิน พร้อมทักทายว่า
“ว่าไง หนุ่มโสด พร้อมจะมีแฟนหรือยัง?”
โมเมนต์นี้ทำให้แฟนๆ ต่างยิ้มตามและชื่นชมในความน่ารักของทั้งคู่
โบว์เคยบอกไว้ว่า มีแผนจะแต่งงานตอนอายุ 30 ปี และกำลังศึกษาการฝากไข่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ส่วนอาเล็กก็แสดงความพร้อมและสนับสนุนแผนของโบว์อย่างเต็มที่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Instagram @lekteeradetch
Instagram @bow_maylada
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official
หลังจาก “บีเบล ไอยา” อินฟลูเอนเซอร์สาวหน้าใส ออกมาโพสต์ผ่าน IG ประกาศข่าวสำคัญว่าเธอตั้งครรภ์ และตัดสินใจเป็น “แม่เลี้ยงเดี่ยว” อย่างเข้มแข็ง ล่าสุด ฝ่ายชายซึ่งถูกชาวเน็ตจับตามองมาตลอด ก็ได้ออกมาโพสต์แถลงชี้แจงอย่างเป็นทางการผ่านอินสตาแกรมบัญชี @tnk.o20 เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 พ.ค. 2568)
เนื้อหาโพสต์ของฝ่ายชายแบ่งเป็นข้อ ๆ อย่างละเอียด พร้อมระบุว่า “ต้องขอโทษที่ออกมาชี้แจงล่าช้า จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดในบางประเด็น” และยังยืนยันว่า เขา “อยู่เคียงข้างฝ่ายหญิงมาตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา”
จากโพสต์นี้ของ @tnk.o20 ที่กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงในชั่วข้ามคืน
ดราม่าไม่จบ! โซเชียลจับพิรุธคำพูด – ชี้เหมือนมีทนายช่วยร่าง
แม้โพสต์ดังกล่าวจะยาวและดูเหมือนชัดเจน แต่เสียงของ “ชาวเน็ต” กลับยังไม่จบ มีหลายแอคเคานต์บน X (Twitter เดิม) ออกมาวิพากษ์การเลือกใช้ถ้อยคำของฝ่ายชายอย่างเผ็ดร้อน
“พึ่งมาลงเพราะกำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่หรอคะ?”
“ข้อความที่พิมพ์ว่า ‘ผมเชื่อในเบื้องต้นว่าเป็นลูกของผม’ คืออะไรคะ? อยู่ด้วยกันตั้งหลายเดือนทำไมยังต้อง ‘เชื่อในเบื้องต้น’ ล่ะ?”
ในขณะที่อีกหลายคนรู้สึกว่า โพสต์ของฝ่ายชายมีภาษาคล้ายเอกสารทางกฎหมาย และสงสัยว่าอาจมี “ทนายช่วยร่างให้” เพื่อควบคุมสถานการณ์และผลกระทบในระยะยาว
จนถึงตอนนี้ “บีเบล” ยังไม่ได้ออกมาตอบกลับหรือพูดถึงโพสต์ชี้แจงของฝ่ายชายอย่างเป็นทางการ แต่หลายคนที่ติดตามเธอใน Instagram ก็ยังคงเข้าไปส่งกำลังใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในคอมเมนต์ที่ยืนยันว่าจะ “อยู่ข้างแม่เลี้ยงเดี่ยวเสมอ”
แต่อย่างไรก็ตาม ดูอะไรเห็นว่าก็มีบางเสียงที่พยายามมองอย่างเป็นกลาง เช่น
“ในเมื่อทั้งคู่บรรลุนิติภาวะแล้ว และต่างคนต่างมีมุมมองของตัวเอง เราเป็นคนนอก อาจจะไม่เห็นทุกอย่างก็ได้”
“ฝ่ายชายก็อธิบายเยอะนะ ฟังดูมีความพยายามจะรับผิดชอบเหมือนกัน”
แสดงให้เห็นว่า แม้โซเชียลจะดูแรง แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้คนมองหลายแง่ไว้เช่นกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก tnk.o20
และข้อมูลจาก X
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official
ใครจะคิดว่าแค่ขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวดี ๆ จะกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำเอาร้องไห้ไม่หยุด…
นักแสดงสาว “ลิลลี่ ภัณฑิลา” ต้องเจอหลุมอากาศแรงสุดชีวิตกลางอากาศ จนถึงขั้นสะอื้นหนัก เพื่อนปลอบกันมือไม้สั่น
แต่พอคลิปหลุดออกมา – ชาวเน็ตบางคนดันแซะว่า “โอเว่อร์ไปป้ะ?”, “ร้องไห้ทำไมเยอะขนาดนั้น?”
เหตุเกิดบนเครื่องบินเที่ยวหนึ่งที่ลิลลี่โดยสารกับเพื่อน ๆ ยังไม่ทันพ้นชั้นเมฆดี เครื่องบินเจอ “หลุมอากาศ” แบบแรงจัดจนมีคนตัวลอย!
เสียงคนบนเครื่องกรี๊ดกันเบา ๆ ส่วนลิลลี่…นั่งนิ่งไม่ได้จ้า น้ำตาไหลพราก จับมือเพื่อนแน่น สะอื้นแทบไม่หยุด
เพื่อนสองคนข้าง ๆ ก็ต้องคอยปลอบกันใหญ่ บรรยากาศในคลิปคือสติหลุดกันทั้งลำ
ชาวเน็ตแบ่งสองฝั่ง – บางคนเข้าใจ บางคนหาว่า “แกล้ง”
พอคลิปหลุดลงโซเชียล ก็มีเสียงแตกทันที บางคนเข้าใจ บางคนหาว่าแกล้ง
แต่ลิลลี่ก็ไม่ปล่อยให้คอมเมนต์ลบทำร้ายใจเงียบ ๆ เธอออกมาชี้แจงว่า…
แฟนหนุ่ม “ชิน ชินวุฒ” ไม่อยู่เฉย – ลุกขึ้นปกป้องลิลลี่ทันที
งานนี้ไม่ต้องรอใครมาซัพ เพราะแฟนหนุ่มสุดหล่อ “ชิน ชินวุฒ” โผล่มาปกป้องแฟนสาวอย่างแมน ๆ ในไอจีสตอรี่ว่า “คนเรารู้สึกไม่เหมือนกัน… อย่าใช้มาตรฐานของตัวเองไปตัดสินคนอื่นครับ”
หลุมอากาศคืออะไร ทำไมคนถึงกลัวขนาดนั้น?
ใครไม่เคยเจออาจจะงง ๆ ว่าทำไมถึงร้องขนาดนั้น
แต่หลุมอากาศคือแรงกระแทกกลางอากาศที่เกิดจากลม บางทีแรงจนเครื่องบิน “ร่วง” เหมือนฟรีฟอลในสวนสนุก
คนไม่รัดเข็มขัดก็คือลอยหัวชนเพดานได้เลย ไม่ใช่แค่ตกใจเล่น ๆ แต่ถ้าหนักมาก ๆ ก็ถึงขั้นเจ็บตัวได้จริง
ใจเย็น ๆ แล้วถามตัวเองว่า…เราใจร้ายกับคนที่กลัวง่ายไปหรือเปล่า?
เรื่องนี้ไม่ได้แค่บอกว่าเครื่องบินตกหลุมอากาศ แต่มันกำลังตะโกนดัง ๆ ว่า “อย่าตัดสินความกลัวของคนอื่น ด้วยใจที่ด้านชาเกินไป” บางคนร้องให้ฟัง บางคนร้องให้เข้าใจ แต่ไม่ควรมีใครต้อง “ร้องไห้แล้วรู้สึกผิด” เพราะถูกด่าว่าเว่อร์
ดูอะไรขอสรุปให้สั้น ๆ สำหรับคนไม่อยากอ่านยาว
ขอขอบคุณแหล่งข่าว :
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official
ทำเอาแฟนคลับและชาวโซเชียลใจหายไปตาม ๆ กัน เมื่อศิลปินสุดแซ่บไฟแรง “มิกซ์ เฉลิมศรี” ออกมาโพสต์ข้อความประกาศสถานะโสดอย่างเป็นทางการ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมเล่าเบื้องหลังดราม่าความรักกับหนุ่มนักว่ายน้ำดีกรีทีมชาติ “จัส ดุลยวัต” หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “ฉลามจัส”
ก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีโมเมนต์น่ารักให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ผ่าน TikTok และโซเชียลต่าง ๆ จนหลายคนแอบเชียร์ให้รักครั้งนี้ไปได้สวย แต่จู่ ๆ ความเคลื่อนไหวก็เงียบหาย จนล่าสุดทาง มิกซ์ ได้ออกมาเล่าเรื่องทั้งหมดแบบหมดเปลือกผ่านโพสต์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความเจ็บปวด และการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตรัก
โดยได้โพสต์ข้อความว่า
หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็เกิดกระแสความเห็นในโซเชียลทันที มีทั้งกำลังใจที่ส่งให้อย่างล้นหลาม หลายคนเข้าใจในความเจ็บปวดจากการสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่เปรียบเสมือนครอบครัว และอีกหลายคนก็แอบเสียดายความสัมพันธ์ที่เคยหวานจนหลายคนแอบเรียกคู่นี้ว่า “ฉลามมิกซ์” พร้อมติดแฮชแท็ก #กลับมารักกันเถอะ
อย่างไรก็ตาม เรื่องยังไม่จบ ! เพราะช่วงเย็นหลังโพสต์ถูกแชร์ออกไปไม่กี่ชั่วโมง ก็มีรายงานว่า “ฉลามจัส” ได้เดินทางมาหามิกซ์ถึงหน้าบ้าน! ด้วยอาการขาเจ็บที่ยังไม่หายดี แต่อยากมาง้อแฟนแฟนคลับที่ตามข่าวอยู่ต่างก็ใจบางไปตาม ๆ กัน เพราะแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการรักษาความสัมพันธ์ของฝ่ายชายมาก
แต่ความพยายามนี้อาจจะยังไม่พอ เพราะจากโพสต์ล่าสุดของมิกซ์ยังคงยืนยันจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “ขออยู่ในสถานะเพื่อนเท่านั้น” พร้อมบอกว่าในตอนนี้หัวใจยังไม่พร้อมที่จะรู้สึกอะไรอีกแล้วจริง ๆ
เรื่องราวความรักของทั้งคู่จึงยังคงค้างคาอยู่กลางทาง ระหว่างอดีตที่เจ็บปวดและอนาคตที่ยังไม่แน่ชัดว่าเส้นทางของทั้งคู่จะกลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้งหรือเปล่า ตอนนี้ก็มีแค่เพื่อน ๆ ที่ฮีลใจในวันที่เศร้าที่สุด
ในขณะที่แฟนคลับบางส่วนก็เชื่อว่า เวลาอาจจะช่วยเยียวยาหัวใจและทำให้ทั้งคู่กลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิม แต่อีกส่วนก็ยอมรับว่าบางครั้ง “ความรัก” ก็อาจไม่เพียงพอ ถ้าหัวใจไม่พร้อม และความเจ็บปวดเกินจะฝืน
แม้ตอนนี้ “ฉลามจัส” จะยังไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับโพสต์ดังกล่าว แต่หลายคนก็คาดหวังว่าจัสอาจจะออกมาเล่ามุมของตัวเอง หรือแม้กระทั่งสื่อความรู้สึกผ่านโซเชียลในเร็ว ๆ นี้
เรื่องนี้จะจบยังไง? “รักรีเทิร์น” หรือ “ปิดตำนานจัสมิกซ์”?
ชาวดูอะไรต้องจับตาดูกันต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคงเป็นที่สนใจของชาวโซเชียลจำนวนมาก !
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฉลิมศรี / Flukkaron
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
โลกโซเชียลสะเทือน เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้โพสต์ข้อความประกาศ ยุติความสัมพันธ์แม่ลูก พร้อมอธิบายเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ เนื่องจากผู้เป็นแม่ได้แอบนำรูปของตนและลูก ๆ ไปแอบอ้าง จนทำให้เกิดความเสียหาย
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 กลายเป็นประเด็นร้อนแรง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อดังรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า
“ขอใช้ช่องทางนี้ในการชี้แจง ดิฉันขอยุติบทบาทการเป็นลูกสาวของ… (แม่) นับจากนี้ เราไม่มีความสัมพันธ์แม่ลูกอีกต่อไป เนื่องจากแม่ได้นำรูปของดิฉันและลูก ๆ ไปแอบอ้าง เพื่อหลอกลวงเงินจากผู้อื่น”
เธอยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า มีหลักฐานการโอนเงินจากผู้เสียหายที่ติดต่อทวงเงินกับเธอโดยตรง ซึ่งเธอเองยืนยันว่าไม่เคยรับรู้เรื่องราวดังกล่าวมาก่อน ทั้งนี้ แม่ได้นำรูปของเธอและลูก ๆ ไปใช้แอบอ้างทั้งหมด
ผู้โพสต์ยังระบุเพิ่มเติมว่า หากผู้เสียหายพบเห็นโพสต์ดังกล่าว ขอให้ส่งหลักฐานการโอนเงินและการสนทนาผ่านทางข้อความ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินคดี เธอได้อธิบายเหตุผลในการออกมาโพสต์ชี้แจงครั้งนี้ เนื่องจากเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเองและลูก ๆ ความปลอดภัยของครอบครัว และป้องกันผลกระทบต่อการทำงานออนไลน์ที่เธอใช้อยู่
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนลูกสาวว่าเป็นการปกป้องตัวเอง และฝ่ายที่มองว่าควรให้โอกาสแม่ พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความกตัญญู
ความคิดเห็นบางส่วนที่น่าสนใจ เช่น
“ถ้าเป็นเราก็ต้องปกป้องตัวเองและลูก ๆ”
“บางครั้งความกตัญญูไม่ควรใช้ในทางที่ผิด”
“เป็นสิทธิ์ของลูกที่ต้องปกป้องตัวเองจากสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”
ที่มา: เฟซบุ๊ก Pantiwa Kaewlom
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร