
ย้อนดราม่าระหว่าง พลอย เฌอมาลย์ และ โต้ง ทูพี






ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram/chermarn
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
ข่าวเด็ด ดวงดี บันเทิงไวรัล ทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram/chermarn
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram/chermarn
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
ทำเอาพรมแดงคานส์ลุกเป็นไฟอีกครั้ง! กับลุคสวยสะกดทุกสายตาของ “ปู ไปรยา“ ในงาน เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ครั้งที่ 78 ที่ประเทศฝรั่งเศส
ครั้งนี้เธอมาพร้อมกับความมั่นใจเต็มร้อย สวยสง่าในชุดราตรีสีขาวสะอาดตาจากแบรนด์ Vivienne Westwood โดดเด่นด้วยดีไซน์คอร์เซทซิกเนเจอร์ เพิ่มลูกเล่นด้วยไข่มุกระย้า สวยหรูผสมผสานกับเมคอัพและทรงผมที่ลงตัว พร้อมเครื่องประดับสุดอลังจาก Chopard และรองเท้าหรูจาก Giuseppe Zanotti เรียกได้ว่ายกระดับความสวยในสไตล์ตัวแม่แบบไร้ที่ติ
งานนี้ สาวปู ไม่ได้แค่ปรากฏตัวในฐานะนักแสดงไทย แต่ยังเป็นดาราฮอลลีวูดที่ครองใจสื่อมวลชนทั่วโลก
โดยเฉพาะกับประโยคเรียล ๆ ที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียล “ในฐานะคนสวย สวยขนาดนี้จะนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ได้ไง” คำตอบที่ทั้งขำและคมจนถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง
แม้หลายคนจะคาใจว่า ปู ไปรยา ไปเมืองคานส์ในฐานะอะไร แต่ความจริงแล้ว การเดินพรมแดงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพบปะสื่อมวลชนเพื่อโปรโมตผลงานภาพยนตร์ระดับโลก “Eyes in the Trees” หนังแนวไซไฟระทึกขวัญที่ดัดแปลงจากนวนิยายดัง “The Island of Doctor Moreau” โดยมีนักแสดงระดับโลกอย่าง Anthony Hopkins, Jonathan Rhys Meyers, และ Ashley Greene ร่วมแสดง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายทั่วโลกปลายปีนี้
การปรากฏตัวของปูในงานรอบสื่อของภาพยนตร์ Mission: Impossible The Final Reckoning ทำเอาพี่ ๆ สื่อตาน้ำขาวยอมรับในความสวยแพงระดับห้าดาว เรียกได้ว่าทั้งลุคและความมั่นใจของเธอ สวยแบบไม่มีพัก สวยจนต้องให้คะแนนร้อยล้านไลค์!
ไม่ว่าจะในฐานะคนสวย หรือในฐานะนักแสดงระดับอินเตอร์ ปู ไปรยา ยังคงเดินหน้าสร้างชื่อเสียงให้กับคนไทยบนเวทีระดับโลกอย่างน่าภาคภูมิใจ
สวยสับแบบนี้ต้องปรบมือให้กับความจึ้งของเธอจริง ๆ!
[อ่านข่าวก่อนหน้า : “ปู ไปรยา” เผยเบื้องหลัง ยอมจ่ายเงินหลักล้านเพื่อความฝัน แม้ไม่มีสปอนเซอร์!]
ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram prayalundberg
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยถึงความสัมพันธ์ของ “แอฟ ทักษอร” กับ “นนกุล ชานน”
หลังจากมีคลิปสัมภาษณ์คู่กันเผยแพร่ออกมา โดยหลายคนมองว่าสายตาของฝ่ายชายดูเปลี่ยนไป ไม่ได้มีท่าทีคลั่งรักเหมือนเก่า จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจจะไม่หวานเหมือนเดิม
[อ่านข่าวก่อนหน้า : หมดโปรแล้ว! ชาวเน็ตจับสังเกต “นนกุล” สายตาเปลี่ยนไป ดูไม่คลั่งรัก “แอฟ ทักษอร” เหมือนเมื่อก่อน]
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 แอฟ ทักษอร ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า สำหรับเธอเอง ความสัมพันธ์ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง กลับรู้สึกว่าดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เธอเล่าว่า ในคลิปนั้นเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่คนเอาไปตีความจนกลายเป็นประเด็น ทั้งที่ความจริงวันนั้นเธอร้องไห้ด้วยความซึ้งใจ จนทำให้นนกุลไม่รู้จะยิ้มอย่างไร แอฟย้ำว่าตนเองไม่ได้เศร้า แต่เป็นความรู้สึกประทับใจในกำลังใจที่ทุกคนมอบให้
แอฟยังกล่าวถึงกระแสข่าวบางข่าวที่พาดหัวแบบสั้น ๆ จนทำให้คนเข้าใจผิดและกระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์เธออย่างหนัก เช่น ข่าวที่พาดหัวว่า “แอฟร้องไห้เพราะผู้ชาย” หรือ “แอฟยอมรับว่าทะเลาะกันและต้องขอโทษก่อนเสมอ” ซึ่งเธอยืนยันว่าทั้งหมดไม่เป็นความจริงเลย การพาดหัวแบบนี้สร้างความสับสนและอารมณ์ให้ผู้อ่านโดยไม่จำเป็น
เมื่อถูกถามว่าดราม่านี้มีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน แอฟตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่มีผลต่อความเป็นตัวตนของเธอขนาดนั้น แต่บางคอมเมนต์ก็ทำให้รู้สึกอยากตอบกลับเหมือนกัน ทว่าเธอเลือกที่จะไม่ตอบ เพราะเข้าใจว่าการโต้ตอบอาจทำให้เรื่องยืดเยื้อ แอฟเชื่อว่าไม่สามารถทำให้ทุกคนรักและเข้าใจเธอได้หมด จึงเลือกที่จะโฟกัสกับคนที่รักและเปิดใจฟังมากกว่า
สุดท้ายแอฟฝากถึงทุกคนว่า ไม่ควรสร้างกระแสโจมตีใครโดยไม่มีมูล เพราะมันไม่มีประโยชน์กับทั้งตัวเธอเองและผู้อ่าน พร้อมบอกว่าเธอไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาซีเรียสอะไร แค่ปล่อยผ่านไปและแผ่เมตตาให้กับทุกคนที่มีความเห็นต่าง เพราะชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ
ชมคลิป
ขอบคุณข้อมูลจาก NineEntertain Official
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
ต้องบอกเลยว่าเกิดกระแสในโลกออนไลน์ขึ้นมาทันที เมื่อพระเอกหนุ่มชื่อดัง “อั้ม อธิชาติ” ได้โพสต์คลิปเล่นกับน้องหมาในโซเชียล
แต่สิ่งที่ชาวเน็ตให้ความสนใจกลับไม่ใช่คลิปน้องหมาที่หนุ่มอั้ม อธิชาติ ลงแต่กลับเป็นเสียงพากย์ของ “ผู้หญิง” ที่ดังออกมาจากในคลิป
ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างออกมาแสดงความคิดเห็นและรู้สึกว่าเสียงดังกล่าวคุ้นเคยอย่างมาก
นอกจากนี้ก็ยังมีชาวเน็ตบางคนถึงกับสงสัยว่าเป็นเสียงของนักแสดงสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” หรือไม่
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 หนุ่มอั้ม อธิชาติ ก็ได้มีโอกาสออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่าตนเองมีเพจเกี่ยวกับสุนัขที่ทำขึ้นเอง และอยากแชร์คลิปข้อมูลที่มีการพากย์เสียง
ซึ่งเสียงพากย์ในคลิปเป็นเสียงของผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้จักกันมานานกว่า 20 ปี และยังเป็นผู้ช่วยของคุณมดดำอีกด้วย โดยผู้ช่วยคนนี้เคยพากย์เสียงมาตั้งแต่ช่วงที่อั้มไปช่วยเหลือน้ำท่วม
เกี่ยวกับประเด็นที่หลายคนคาดเดาว่าเสียงพากย์ดังกล่าวเป็นของเจนี่นั้น หนุ่มอั้มเผยว่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเสียงนี้คล้ายเสียงของเจนี่มาก ถึงขั้นละเลยดูน้องหมาไปเลย และมุ่งฟังแต่เสียงอย่างเดียว แม้ว่าหนุ่มอั้มจะได้เขียนข้อความอธิบายไปแล้ว แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น จึงได้ถ่ายคลิปชี้แจงว่าเป็นผู้ช่วยจริง ๆ ไม่ใช่เจนี่ และขอความร่วมมือไม่พาดพิงถึงบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
หนุ่มอั้มยังเน้นว่า การทำคลิปเพียงต้องการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขเท่านั้น และไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดไปไกลกว่านี้ จึงขอให้ผู้ติดตามรับข้อมูลจากคลิปและข้อความชี้แจงโดยตรง เพื่อลดความเข้าใจผิดและหลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงผู้อื่นอย่างไม่จำเป็น
ขอบคุณข้อมูลจาก วันบันเทิง oneบันเทิง
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
คู่รักดาราที่ทำให้แฟนๆ ฟินกันทั่วประเทศคงหนีไม่พ้น “อาเล็ก ธีรเดช” และ “โบว์ เมลดา” ที่ล่าสุดเผยโมเมนต์หวานๆ กับแชทแรกที่ทักไปจีบกัน ทำเอาโซเชียลละลายไปตามๆ กัน
อาเล็กเล่าว่า พบกับโบว์ครั้งแรกในปี 2564 ขณะถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง “โอเครึเปล่า” ของบอย ตรัย ซึ่งโบว์เป็นนางเอกของเอ็มวี หลังจากนั้น ทั้งคู่เริ่มพูดคุยกันผ่านไอจี ก่อนที่อาเล็กจะตัดสินใจทักไปจีบอย่างจริงจัง
แชทแรกที่ทำให้ใจเต้น
อาเล็กส่งข้อความแนะนำตัวอย่างละเอียดถึงโบว์ว่า
“สวัสดีครับ ผมอาเล็ก ธีรเดช อายุเท่านี้ ชอบกินอะไร ทำอะไรบ้าง…”
โบว์ตอบกลับด้วยข้อความแนะนำตัวในลักษณะเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยความเข้าใจและความจริงใจ
เมื่ออาเล็กกลับจากต่างประเทศ โบว์ได้ไปเซอร์ไพรส์ที่สนามบิน พร้อมทักทายว่า
“ว่าไง หนุ่มโสด พร้อมจะมีแฟนหรือยัง?”
โมเมนต์นี้ทำให้แฟนๆ ต่างยิ้มตามและชื่นชมในความน่ารักของทั้งคู่
โบว์เคยบอกไว้ว่า มีแผนจะแต่งงานตอนอายุ 30 ปี และกำลังศึกษาการฝากไข่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ส่วนอาเล็กก็แสดงความพร้อมและสนับสนุนแผนของโบว์อย่างเต็มที่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Instagram @lekteeradetch
Instagram @bow_maylada
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official
ใครจะคิดว่าแค่ขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวดี ๆ จะกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำเอาร้องไห้ไม่หยุด…
นักแสดงสาว “ลิลลี่ ภัณฑิลา” ต้องเจอหลุมอากาศแรงสุดชีวิตกลางอากาศ จนถึงขั้นสะอื้นหนัก เพื่อนปลอบกันมือไม้สั่น
แต่พอคลิปหลุดออกมา – ชาวเน็ตบางคนดันแซะว่า “โอเว่อร์ไปป้ะ?”, “ร้องไห้ทำไมเยอะขนาดนั้น?”
เหตุเกิดบนเครื่องบินเที่ยวหนึ่งที่ลิลลี่โดยสารกับเพื่อน ๆ ยังไม่ทันพ้นชั้นเมฆดี เครื่องบินเจอ “หลุมอากาศ” แบบแรงจัดจนมีคนตัวลอย!
เสียงคนบนเครื่องกรี๊ดกันเบา ๆ ส่วนลิลลี่…นั่งนิ่งไม่ได้จ้า น้ำตาไหลพราก จับมือเพื่อนแน่น สะอื้นแทบไม่หยุด
เพื่อนสองคนข้าง ๆ ก็ต้องคอยปลอบกันใหญ่ บรรยากาศในคลิปคือสติหลุดกันทั้งลำ
ชาวเน็ตแบ่งสองฝั่ง – บางคนเข้าใจ บางคนหาว่า “แกล้ง”
พอคลิปหลุดลงโซเชียล ก็มีเสียงแตกทันที บางคนเข้าใจ บางคนหาว่าแกล้ง
แต่ลิลลี่ก็ไม่ปล่อยให้คอมเมนต์ลบทำร้ายใจเงียบ ๆ เธอออกมาชี้แจงว่า…
แฟนหนุ่ม “ชิน ชินวุฒ” ไม่อยู่เฉย – ลุกขึ้นปกป้องลิลลี่ทันที
งานนี้ไม่ต้องรอใครมาซัพ เพราะแฟนหนุ่มสุดหล่อ “ชิน ชินวุฒ” โผล่มาปกป้องแฟนสาวอย่างแมน ๆ ในไอจีสตอรี่ว่า “คนเรารู้สึกไม่เหมือนกัน… อย่าใช้มาตรฐานของตัวเองไปตัดสินคนอื่นครับ”
หลุมอากาศคืออะไร ทำไมคนถึงกลัวขนาดนั้น?
ใครไม่เคยเจออาจจะงง ๆ ว่าทำไมถึงร้องขนาดนั้น
แต่หลุมอากาศคือแรงกระแทกกลางอากาศที่เกิดจากลม บางทีแรงจนเครื่องบิน “ร่วง” เหมือนฟรีฟอลในสวนสนุก
คนไม่รัดเข็มขัดก็คือลอยหัวชนเพดานได้เลย ไม่ใช่แค่ตกใจเล่น ๆ แต่ถ้าหนักมาก ๆ ก็ถึงขั้นเจ็บตัวได้จริง
ใจเย็น ๆ แล้วถามตัวเองว่า…เราใจร้ายกับคนที่กลัวง่ายไปหรือเปล่า?
เรื่องนี้ไม่ได้แค่บอกว่าเครื่องบินตกหลุมอากาศ แต่มันกำลังตะโกนดัง ๆ ว่า “อย่าตัดสินความกลัวของคนอื่น ด้วยใจที่ด้านชาเกินไป” บางคนร้องให้ฟัง บางคนร้องให้เข้าใจ แต่ไม่ควรมีใครต้อง “ร้องไห้แล้วรู้สึกผิด” เพราะถูกด่าว่าเว่อร์
ดูอะไรขอสรุปให้สั้น ๆ สำหรับคนไม่อยากอ่านยาว
ขอขอบคุณแหล่งข่าว :
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official
ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นถูกต้องจับตามองเป็นอย่างมากขณะนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับความสัมพันธ์ของคู่รักต่างวัยอย่าง “นนกุล ชานน” และ “แอฟ ทักษอร”
ที่ไม่ว่าทั้งหนุ่มนนกุล ชานน จะออกงานกับสาวแอฟ ทักษอร กี่ครั้งก็มักจะมีโมเมนต์หวาน ๆ ชวนให้เหล่าแฟนคลับต่างเขินกันไปตาม ๆ กัน
แต่ล่าสุดงานที่ทั้งคู่ได้ออกงานรวมกันก็ได้มีชาวเน็ตบางท่านจับสังเกตเห็นว่าสายตาของหนุ่มนนกุลที่มองไปยังสาวแอฟดูเปลี่ยนไป
ชาวเน็ตท่านดังกล่าวเผยว่าสายตาของหนุ่มนนกุลนิ่งเฉย ไม่วิบวับเหมือนแต่ก่อน หรือสมัยที่เพิ่งเปิดตัวกันแรก ๆ
หลังจากที่มีประเด็นดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป เพจดังอย่าง เจ๊มอย108 V1 ก็ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงประเด็นดังกล่าว
โพสต์ดังกล่าว
ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
ขอบคุณข้อมูลจาก เจ๊มอย108 V1
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
กลายเป็นคำถามที่ชาวเน็ตต่างจับตามองอีกครั้ง สำหรับความสัมพันธ์ของ 2 นักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง “กระทิง ขุนณรงค์” และ “กระปุก พลอยนิรา”
หลังจากเพจดังในโลกออนไลน์ได้หย่อนคำใบ้ที่ดูเหมือนจะโยงไปยังคู่รักนักแสดงที่เคยหวานกันมานานหลายปี แต่ตอนนี้อาจถึงจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ และเลิกกันแล้วหรือไม่?
ช่วงต้นปีที่ผ่านมา วงการบันเทิงไทยเจอกระแสข่าวเลิกราของคู่รักคนดังหลายคู่ ซึ่งล้วนทำให้แฟนคลับต้องใจหาย และล่าสุดได้มีการจุดกระแสใหม่จากเพจชื่อดังอย่าง เจ๊มอย108 V1 ที่ออกมาโพสต์ข้อความว่า “การอวดแฟน คลั่งรักในวันนั้น น่าจะจบกันละมั้งในวันนี้ เพราะเขาอันฟอลกันแล้วจ้า ต่อไปผัวน่าจะตอบแล้วล่ะว่า..โสดครับ!!” ข้อความนี้แม้จะไม่มีการระบุชื่อ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้หลายคนเริ่มสืบเสาะว่ากำลังพูดถึงใครกันแน่
ไม่นานหลังจากโพสต์ดังกล่าว เพจอีกแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า อีป้าข้างบ้าน ได้เสริมประเด็นโดยระบุว่า “จริงๆ คู่นี้มีข่าวเลิกกันตั้งแต่ต้นปีละ แต่ผู้ชายขอไม่ตอบเรื่องนี้ เพราะตอนนั้นเป็นช่วงวัดใจ เผื่อปรับความเข้าใจแล้วจะดี แต่สุดท้าย…ผู้หญิงอันฟอลแล้ว แปลว่าเลิกกันขาดแล้วสินะ”
เมื่อข้อมูลนี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจึงเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าอาจหมายถึงคู่ของ “กระทิง ขุนณรงค์” และ “กระปุก พลอยนิรา” นักแสดงที่คบหาดูใจกันมานานกว่า 8 ปี
เมื่อตรวจสอบอินสตาแกรมของทั้งคู่ พบว่าฝ่ายชายยังคงติดตามฝ่ายหญิงอยู่ แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่ได้ติดตามฝ่ายชายแล้ว ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ทำให้กระแสข่าวลือเรื่องการเลิกราทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ความรักของ “กระทิง ขุนณรงค์” และ “กระปุก พลอยนิรา” ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่แฟน ๆ ต่างชื่นชม เนื่องจากทั้งคู่ผ่านเหตุการณ์มากมายมาด้วยกัน ทั้งเรื่องส่วนตัวและเหตุการณ์สาธารณะ เช่น กรณีที่กระทิงต้องเข้าให้ปากคำในคดี Forex-3D กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยมีแฟนสาวยืนเคียงข้างเสมอ
ในบทสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง กระปุกเคยกล่าวไว้ว่า เธอโชคดีที่ได้แฟนหล่อ ตี๋ สูง ผิวดี แถมนิสัยดีอีกด้วย และเธอก็เชื่อว่าตัวเองคือวาสนาของเขาเช่นกัน ซึ่งคำพูดนี้กลายเป็นที่จดจำของแฟนคลับหลายคน
แม้จะมีข่าวลือออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งกระทิงและกระปุกยังไม่ได้ออกมาพูดชัดเจนถึงสถานะความสัมพันธ์ในปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ เมื่อถูกสื่อถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ กระทิงเพียงกล่าวสั้น ๆ ว่า “จะให้ตอบอย่างไรดี ยังไม่พูดดีกว่าครับ เรื่องส่วนตัวผมไม่ค่อยพูดเท่าไหร่” คำตอบนี้ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยยุติข่าวลือ แต่กลับทำให้ผู้คนยิ่งสงสัยและรอการยืนยันจากปากของทั้งสองฝ่ายมากยิ่งขึ้น
แม้ทุกสัญญาณจะชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าทั้งคู่เลิกกันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการจากเจ้าตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเรื่องราวนี้จบลงอย่างไร
แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ ข่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของสังคมต่อชีวิตรักของคนดัง และในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้ความรักจะดูมั่นคงเพียงใด ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา
อย่างไรก็ตามเรื่องราวของ “กระทิง ขุนณรงค์” และ “กระปุก พลอยนิรา” ยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ว่าเลิกรากันจริงหรือไม่ แต่ชาวเน็ตต่างก็พากันจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะการอันฟอลโลว์กันในโลกออนไลน์อาจสื่อถึงความเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ หรืออาจเป็นเพียงเรื่องส่วนตัวที่ยังไม่ต้องการเปิดเผยก็เป็นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก เจ๊มอย108 V1
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร
แม้จะถูกถามถึงประเด็นความรักกับโตโน่ แต่ณิชากลับเลือกตอบด้วยความสุภาพและชัดเจนว่า “หนูไม่พูดได้มั้ยคะ ขอบคุณนะคะ” และเมื่อนักข่าวถามย้ำว่า ขอก้าวข้ามเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไหม เธอก็ตอบว่า “ใช่ค่ะ” พร้อมกล่าวเสริมว่า “ตอนนี้อยู่กับปัจจุบันนะคะ” ท่ามกลางความสนใจของสื่อและผู้ร่วมงาน
เมื่อมีคำถามต่อว่า ตอนนี้ทั้งสวย ทั้งสนุก และดูเอนจอยกับชีวิตมาก ณิชาก็ยิ้มพร้อมตอบว่า “ก็เป็นอย่างนั้นมาตลอดค่ะ” ก่อนจะเผยถึงความสุขในชีวิตว่า ยังคงมีความสุขกับการทำงาน การได้ใช้ชีวิตในแบบที่เธอเลือก ได้ทานของอร่อย ได้เที่ยวกับเพื่อน ๆ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้คือความสุขที่เพียงพอแล้วสำหรับเธอในช่วงเวลานี้
และเมื่อถูกถามถึงสถานะหัวใจว่าตอนนี้ใช้คำว่า “โสด” ได้หรือยัง นักแสดงสาวก็ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “แฮปปี้ดีค่ะ” ก่อนจะย้ำอย่างชัดเจนว่า “อยู่คนเดียวค่ะ” พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง พร้อมทิ้งท้ายว่า “ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง อยากให้ทุกคนมีความสุขกันค่ะ” และไม่ลืมที่จะชวนให้แฟน ๆ ไปชมภาพยนตร์เรื่อง Thunderbolts ที่เธอร่วมงานเปิดตัวในวันเดียวกัน
ด้านโตโน่ ภาคิน ซึ่งมีคนติดตามความเคลื่อนไหวไม่แพ้กัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 เจ้าตัวได้โพสต์ภาพลงในไอจีสตอรี่ ขณะอุ้มหลานระหว่างทริปที่เซี่ยงไฮ้ โดยไม่มีข้อความกำกับ มีเพียงการเช็กอินสถานที่เท่านั้น
และยังมีภาพจาก ต้องตา น้องสาวของโตโน่ ที่ลงรูปจากทริปดังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งมีแฟน ๆ เข้าไปแสดงความเห็นกันอย่างคึกคัก หลายคนยังคงส่งกำลังใจให้ทั้งคู่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม
แม้จะเป็นช่วงที่หลายคนจับตามองถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตรักของเธอ แต่นิชาก็เลือกที่จะเดินหน้าอย่างมั่นคง ด้วยรอยยิ้ม และหัวใจที่เข้มแข็ง สมกับเป็นอีกหนึ่งนักแสดงหญิงที่ได้รับความรักจากแฟน ๆ ทั่วประเทศ
ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram mootono29, Instagram nychaa, Thairath News – ข่าวไทยรัฐ
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร