28/09/2025

Trending

โผล่ชื่อ “เจ้าคุณแย้ม” กลางคดีเงินหายจากวัดไร่ขิง

กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการสงฆ์ เมื่อพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ “เจ้าคุณแย้ม” เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 เข้าสู่กระบวนการสอบสวนของตำรวจ บก.ปปป. หลังถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้คาดว่าไหลเข้าขบวนการเว็บพนันออนไลน์

คดีเริ่มจากการสืบสวนเครือข่ายเว็บพนันที่มีบัญชีต้องสงสัยหลายรายการ หนึ่งในนั้นปรากฏชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการเงินของวัดไร่ขิง ซึ่งเชื่อมโยงกับหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกจับได้ว่ารับโอนเงินจากวัด ก่อนจะส่งต่อให้กลุ่มพนัน

เจ้าอาวาสมอบตัว แสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ยังไม่มีข้อยุติ

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 พระธรรมวชิรานุวัตรเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ด้วยตนเอง โดยให้เหตุผลว่าต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่างในการสอบสวน

เบื้องต้นยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหากับพระธรรมวชิรานุวัตรโดยตรง แต่การสอบสวนกำลังขยายผลไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเงินวัด ซึ่งอาจรวมถึงฝ่ายเลขาฯ หรือคนใกล้ชิด

แฉเส้นทางเงินวัด 300 ล้าน เข้ากระเป๋าเว็บพนัน

ข้อมูลจากการสอบสวนเผยว่าเงินจากบัญชีของวัดไร่ขิงหลายครั้งถูกโอนไปยังบัญชีบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหญิงสาวที่ทำหน้าที่ “ตัวกลาง” โอนเงินต่อไปยังเครือข่าย

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนมากกว่า 8 เดือน เพื่อแกะรอยธุรกรรมทั้งหมด ก่อนจะนำไปสู่การออกหมายจับหญิงคนดังกล่าว และเชื่อว่าคดีนี้อาจมี “ผู้มีอิทธิพล” หรือบุคคลระดับสูงในวงการสงฆ์เกี่ยวข้อง

เสื่อมศรัทธา-สั่นคลอนความเชื่อ ชาวพุทธตั้งคำถาม

เมื่อข่าวนี้กระจายออกไป สังคมออนไลน์ต่างพากันตั้งคำถามว่า ทำไมเงินวัดที่ญาติโยมนำมาทำบุญกลับถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโยงถึงการพนันออนไลน์ที่เข้าข่ายผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม

หลายเสียงเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดต่าง ๆ อย่างเข้มข้น และเรียกร้องความโปร่งใสจากพระชั้นผู้ใหญ่

คดีนี้จบยัง? ต้องจับตาต่อ

ถึงตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาโดยตรงกับพระธรรมวชิรานุวัตร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และหากพบพยานหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายไม่เว้นแม้แต่พระชั้นผู้ใหญ่

ขณะที่ชาวพุทธจำนวนมากยังเฝ้าจับตาความคืบหน้าของคดี เพราะเงิน 300 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ใช่แค่เงิน แต่หมายถึง “ศรัทธา” ที่กำลังถูกตั้งคำถาม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร (https://www.dooarai.com/)

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ อย่างไม่ทำให้ผิดหวัง สำหรับ “อิงฟ้า วราหะ” นางงามและนักแสดงสาวชาวไทย ที่ได้รับเกียรติร่วมเดินพรมแดงในงาน The Red Sea Film Foundation ณ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 78

อิงฟ้า วราหะ
อิงฟ้า วราหะ

อิงฟ้า วราหะ กับเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งแรก

ซึ่งปีนี้เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 78 จัดขึ้นภายใต้กิจกรรม “Women in Cinema” เพื่อเฉลิมฉลองผู้หญิงทรงอิทธิพลในวงการภาพยนตร์จากโลกอาหรับ แอฟริกา และเอเชีย

อิงฟ้า วราหะ
อิงฟ้า วราหะ

อิงฟ้า วราหะ ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อต่างชาติ

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 อิงฟ้าได้ปรากฏตัวบนพรมแดงอย่างสง่างาม พร้อมกับ บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล บิ๊กบอสแห่ง MGI เจ้าของเวทีมิสแกรนด์

อิงฟ้า วราหะ
อิงฟ้า วราหะ

โดยทั้งคู่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้เข้าร่วมงานและแฟน ๆ ที่ติดตามอยู่ทั่วโลก

อิงฟ้า วราหะ
อิงฟ้า วราหะ

ในงานนี้ อิงฟ้า วราหะ เลือกสวมชุดเดรสจากแบรนด์ดัง Christophe Guillarme ที่สะท้อนถึงความงามและความสง่างามอย่างมีเสน่ห์ สมกับบทบาท “มาดามบุญเลื่อง” จากภาพยนตร์เรื่องล่าสุด

อิงฟ้า วราหะ
อิงฟ้า วราหะ

ซึ่งดัดแปลงจากวรรณกรรมคลาสสิก “จัน ดารา” ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ระหว่างการทำตลาดระดับนานาชาติโดย Mokster Films

อิงฟ้า วราหะ
อิงฟ้า วราหะ

การปรากฏตัวบนพรมแดงในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสำเร็จในวงการบันเทิงของอิงฟ้า วราหะ แต่ยังเป็นการประกาศศักยภาพของนักแสดงหญิงไทยในเวทีระดับโลก แฟน ๆ ต่างร่วมแสดงความยินดีและชื่นชมในความงดงามและความสามารถของเธออย่างล้นหลาม

ชมคลิป

ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram fa_engfa8, Instagram mgibeyond
อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

แม้จะผ่านมา 3-4 ปีแล้ว แต่ “WFH” หรือการทำงานจากบ้านก็ยังเป็นสไตล์ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ไม่หายไปไหน ยิ่งบริษัทเริ่มยืดหยุ่นมากขึ้น หลายคนก็เริ่มลงทุน “แต่งออฟฟิศในบ้าน” ให้ทำงานได้แบบจริงจัง ไม่ใช่แค่นั่งบนโซฟากอดหมาทำงานอีกต่อไป

แล้วจะมีอะไรบ้างล่ะ ที่ช่วยให้ชีวิต WFH สะดวกขึ้น ไม่ต้องปวดหลัง ปวดตา หรือรู้สึกเหมือนโดนขัง วันนี้ Dooarai ขอจัดเต็ม 7 Gadget ตัวเด็ด ที่จะเปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็น “ที่ทำงานในฝัน” ได้เลย!

1. โต๊ะทำงานแบบลุก-นั่งได้ (Adjustable Standing Desk)

ใครที่ต้องนั่งประชุมยาว ๆ 4-5 ชั่วโมงต่อวันควรมีไว้เลย โต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ จะช่วยให้คุณสลับระหว่างการ “นั่งทำงาน” กับ “ยืนพิมพ์งาน” ได้แบบไม่ปวดหลัง ไม่บล็อกกระดูกคอ แถมยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้นอีกด้วย

โต๊ะทำงานราคาดี คุณภาพสูง กดเลย

2. เก้าอี้ทำงานที่ซัพพอร์ตหลังจริงจัง

อย่าประหยัดกับเก้าอี้! เพราะการนั่งทำงาน 6-8 ชั่วโมงบนเก้าอี้แข็ง ๆ นอกจากจะปวดหลังแล้ว ยังอาจพาให้เรากลายเป็นผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมแบบไม่รู้ตัว เก้าอี้ทำงานที่ดีควรปรับพนักพิงได้ รองรับกระดูกสันหลัง และมีที่รองแขนที่ไม่ทำให้ไหล่ล้า

เก้าอี้ซัพพอร์ตที่เราแนะนำ กดเลย

3. หูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling Headphones)

อยู่บ้านไม่ได้แปลว่าเงียบเสมอไป เสียงรถ เสียงคนขายของ หรือแม้แต่แมวที่วิ่งชนโต๊ะก็สามารถทำให้เราหลุดสมาธิได้ หูฟังตัดเสียงรบกวนจึงเป็นของที่คน WFH ต้องมี โดยเฉพาะเวลาประชุมออนไลน์ที่ไม่อยากให้เสียงรบกวนเข้าไมค์

หูฟังที่ชาว WFH ต้องมี แบบครอบหูไร้สายเก๋ ๆ กดเลย

หูฟังแบบเล็กกระทัดรัด แต่คุณภาพสูง กดเลย

4. กล้องเว็บแคม Full HD พร้อมไมโครโฟ

แม้โน้ตบุ๊กจะมีกล้องอยู่แล้ว แต่คุณภาพมักจะแค่พอใช้เท่านั้น ถ้าอยากให้ภาพชัดแจ๋ว หน้าไม่เบลอ แถมเสียงคมชัด กล้องเว็บแคมแยกคุณภาพสูงคือคำตอบ! จะประชุม หรือจะ Live สด ก็เอาอยู่

กล้องชัด มีตติ้งไม่สดุด กดเลย

5. โคมไฟตั้งโต๊ะปรับแสงได้

แสงที่ดีช่วยลดความล้าในตาได้มาก โดยเฉพาะตอนพิมพ์งานหรือจ้องหน้าจอนาน ๆ โคมไฟ LED ที่สามารถปรับแสงและอุณหภูมิสีได้ จะช่วยให้ดวงตาคุณรู้สึกสบาย ไม่แสบ ไม่เครียดตอนค่ำ

โคมไฟแสงนวล กดเลย 

6. แท่นวางโน้ตบุ๊ก (Laptop Stand) + คีย์บอร์ดไร้สาย

ไม่อยากหลังค่อมคอเอียง แนะนำให้ยกระดับโน้ตบุ๊กขึ้น แล้วใช้คีย์บอร์ดและเมาส์แยก จะช่วยให้ท่าทางดีขึ้น แถมดูโปรขึ้นอีกต่างหาก

แท่นวางโน้ตบุ๊กสุดจำเป็น กดเลย

คีย์บอร์ด + เมาส์ไร้สาย มือโปรต้องมี กดเลย

7. เครื่องฟอกอากาศจิ๋วแต่แจ๋ว

อย่าคิดว่าอยู่ในบ้านแล้วจะปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 หรือเชื้อโรคในอากาศ เครื่องฟอกอากาศขนาดพอเหมาะช่วยให้ห้องทำงานของคุณสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลดภูมิแพ้ ป้องกันกลิ่นอับ ทำให้ทำงานได้สบายทั้งวัน

ของสำคัญอย่างเครื่องฟอกอากาศ เราคัดมาแล้ว กดเลย !

ดูอะไรสรุปให้ ! ลงทุน Gadget เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การ WFH อาจดูสะดวก แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์ดี ๆ ก็อาจกลายเป็นต้นเหตุของความเครียด และสุขภาพพังในระยะยาวได้ Gadget เหล่านี้อาจมีราคาสูงบ้างในบางชิ้น แต่รับรองว่า “คุ้ม” กับสุขภาพกายและใจของคุณแน่นอน

ติดตามบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

อยู่บ้านก็แทบละลาย จะหนีร้อนก็ไม่มีที่ไป… แล้วจะแต่งบ้านหน้าร้อนยังไงให้เย็นกายเย็นใจ แถมยังสวยถูกจริตเรา?

ถึงเวลาเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นมุมพักใจสุดคลู ด้วยวิธีแต่งบ้านหน้าร้อนที่ทั้งประหยัดและดูดีแบบไม่ต้องง้อดีไซเนอร์ ส่วนจะมีไอเทมไหนน่าโดนบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย

เริ่มที่พื้นฐาน “สี” และ “แสง” ก่อน!

  • เลือกโทนสีเย็น เช่น ฟ้าอ่อน เขียวมิ้นต์ หรือสีขาวไข่
  • เปลี่ยนผ้าม่าน ผ้าปู พรม ให้ดูเบาสบาย
  • ใช้หลอดไฟ LED สี Daylight ลดความร้อนในห้อง

ของแต่งบ้านหน้าร้อนที่ต้องมี!

1. ม่านกันแดดแบบ UV Block

ช่วยกันรังสียูวี ลดอุณหภูมิภายในบ้านได้จริง

ดูม่านกันร้อนคุณภาพดี คลิกที่นี่

2. พัดลมไอเย็น / พัดลมตั้งโต๊ะ

ประหยัดไฟกว่าแอร์ แถมลมเย็นแบบไม่แห้ง

เช็กพัดลมไอเย็นรุ่นขายดีที่นี่

3. น้ำหอมในบ้านกลิ่นเย็นๆ

เช่น ยูคาลิปตัส หรือซีตรัส ช่วยให้บ้านรู้สึกสดชื่น

เลือกกลิ่นหอมหน้าร้อนยอดฮิต คลิกเลย

เพิ่มมุมต้นไม้ = เพิ่มความเย็นแบบธรรมชาติ

ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้จริงหรือต้นไม้ปลอม แค่มี “สีเขียว” บ้านก็ดูสบายตาและลดความเครียดได้ทันที

  • ลิ้นมังกร – ฟอกอากาศดีมาก
  • ยางอินเดีย – โทนเขียวเข้มสวย
  • ไทรใบสัก – สายมินิมอลต้องมี

เลือกต้นไม้แต่งบ้านหน้าร้อนคลิกเลย

DIY ง่ายๆ ไม่เปลืองงบ

  • เปลี่ยนปลอกหมอนเป็นผ้าลินิน
  • วางกระจกสะท้อนแสงให้ห้องดูโปร่ง
  • ติดวอลเปเปอร์ลาย Tropical เพิ่มความสดชื่น

ดูอะไรสรุปให้ ! แต่งบ้านหน้าร้อน = แต่งใจให้เย็น

ไม่ว่าจะเลือกเริ่มจากจุดเล็ก ๆ หรือเปลี่ยนมุมทั้งบ้าน สิ่งสำคัญคือการทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นในช่วงหน้าร้อนนี้ — เพราะบ้านที่เย็นสบาย คือที่ที่ใจเราอยากกลับมา

อย่ารอช้า! ลองแต่งบ้านหน้าร้อนในแบบที่ใช่ แล้วแชร์ไอเดียให้เพื่อน ๆ กันได้เลย

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ Dooarai

ต้องบอกเลยว่าเกิดกระแสในโลกออนไลน์ขึ้นมาทันที เมื่อพระเอกหนุ่มชื่อดัง “อั้ม อธิชาติ” ได้โพสต์คลิปเล่นกับน้องหมาในโซเชียล

อั้ม อธิชาติ
อั้ม อธิชาติ

แต่สิ่งที่ชาวเน็ตให้ความสนใจกลับไม่ใช่คลิปน้องหมาที่หนุ่มอั้ม อธิชาติ ลงแต่กลับเป็นเสียงพากย์ของ “ผู้หญิง” ที่ดังออกมาจากในคลิป

อั้ม อธิชาติ
อั้ม อธิชาติ

ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างออกมาแสดงความคิดเห็นและรู้สึกว่าเสียงดังกล่าวคุ้นเคยอย่างมาก

เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ

นอกจากนี้ก็ยังมีชาวเน็ตบางคนถึงกับสงสัยว่าเป็นเสียงของนักแสดงสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” หรือไม่

เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 หนุ่มอั้ม อธิชาติ ก็ได้มีโอกาสออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่าตนเองมีเพจเกี่ยวกับสุนัขที่ทำขึ้นเอง และอยากแชร์คลิปข้อมูลที่มีการพากย์เสียง

อั้ม อธิชาติ
อั้ม อธิชาติ

ซึ่งเสียงพากย์ในคลิปเป็นเสียงของผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้จักกันมานานกว่า 20 ปี และยังเป็นผู้ช่วยของคุณมดดำอีกด้วย โดยผู้ช่วยคนนี้เคยพากย์เสียงมาตั้งแต่ช่วงที่อั้มไปช่วยเหลือน้ำท่วม

อั้ม อธิชาติ
อั้ม อธิชาติ

เกี่ยวกับประเด็นที่หลายคนคาดเดาว่าเสียงพากย์ดังกล่าวเป็นของเจนี่นั้น หนุ่มอั้มเผยว่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเสียงนี้คล้ายเสียงของเจนี่มาก ถึงขั้นละเลยดูน้องหมาไปเลย และมุ่งฟังแต่เสียงอย่างเดียว แม้ว่าหนุ่มอั้มจะได้เขียนข้อความอธิบายไปแล้ว แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น จึงได้ถ่ายคลิปชี้แจงว่าเป็นผู้ช่วยจริง ๆ ไม่ใช่เจนี่ และขอความร่วมมือไม่พาดพิงถึงบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง

อั้ม อธิชาติ
อั้ม อธิชาติ

หนุ่มอั้มยังเน้นว่า การทำคลิปเพียงต้องการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขเท่านั้น และไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดไปไกลกว่านี้ จึงขอให้ผู้ติดตามรับข้อมูลจากคลิปและข้อความชี้แจงโดยตรง เพื่อลดความเข้าใจผิดและหลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงผู้อื่นอย่างไม่จำเป็น

ขอบคุณข้อมูลจาก วันบันเทิง oneบันเทิง

อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

เป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อครูเต้ย อภิวัฒน์ นักร้องลูกทุ่งอินดี้ขวัญใจมหาชน ได้เผยภาพความคืบหน้าของบ้านหลังใหญ่ที่ใช้เวลาสร้างมากว่า 2 ปี บนพื้นที่กว้างขวางกว่า 4 ไร่ ในจังหวัดขอนแก่น

ครูเต้ย อภิวัฒน์
ครูเต้ย อภิวัฒน์

โดยเจ้าตัวได้โพสต์ภาพพร้อมแคปชั่นขำ ๆ ว่า.. “ถามว่าเงินไปไสเบิ่ด อัปเดตบ้านคืนถิ่น 2025”

ครูเต้ย อภิวัฒน์
ครูเต้ย อภิวัฒน์

แม้ว่าบ้านจะยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่สามารถสังเกตได้ว่าบ้านมีขนาดใหญ่โต โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย

ครูเต้ย อภิวัฒน์
ครูเต้ย อภิวัฒน์

ครูเต้ยตั้งใจให้บ้านหลังนี้เป็นทั้งที่พักอาศัยและสตูดิโอสำหรับทำงานเบื้องหลังในอนาคต

ครูเต้ย อภิวัฒน์
ครูเต้ย อภิวัฒน์

หลังจากโพสต์ดังกล่าว แฟนคลับต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม

ครูเต้ย อภิวัฒน์
ครูเต้ย อภิวัฒน์

ส่วนใหญ่ชื่นชมความอลังการของบ้าน บ้างก็บอกว่าพื้นที่ขนาดนี้ควรเรียกว่าอาณาจักรเลยทีเดียว

ครูเต้ย อภิวัฒน์
ครูเต้ย อภิวัฒน์

นอกจากนั้นยังมีแฟนคลับหลายคนที่ให้กำลังใจและรอคอยวันที่บ้านหลังนี้จะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของครูเต้ยอย่างอบอุ่น

ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram toey_apiwat23

อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

ใครที่มีแมวเป็นลูกต้องอ่าน! เรื่อง “ทรายแมว” นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยนะ เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงความสะดวกของน้องเหมียวแล้ว เจ้าของอย่างเราก็ต้องคิดถึงเรื่องกลิ่น ความสะอาด และกระเป๋าตังค์ด้วย วันนี้ Dooarai จะพาไปเจาะลึกแบบไม่มีอวย ว่าระหว่าง ทรายแมวเต้าหู้ กับ ทรายแมวเบนโทไนต์ อันไหนดีกว่า? เหมาะกับใคร? แล้วคุณควรเลือกอะไรให้เจ้านายที่บ้านกันแน่?

ทรายแมวเต้าหู้: ทางเลือกสายออร์แกนิกที่กำลังมาแรง

ทรายแมวเต้าหู้ ทำมาจากกากถั่วเหลืองหรือเส้นใยพืชต่าง ๆ มีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก เบา สีขาวนวล ๆ คล้ายข้าวโพดป่น บางคนก็เรียก “ทรายแมวออร์แกนิก” เพราะมันเป็นมิตรต่อโลกและต่อแมวสุด ๆ

ข้อดีของทรายแมวเต้าหู้

  • ย่อยสลายง่าย เทลงชักโครกได้เลย ไม่ต้องแยกขยะให้วุ่นวาย
  • ปลอดภัยกับแมวเลีย เพราะทำจากวัสดุธรรมชาติ ถ้าน้องเผลอเลียเข้าปากก็ไม่เป็นอันตราย
  • น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ไม่ปวดหลังเวลาเปลี่ยนถุง
  • กลบกลิ่นได้ดีพอสมควร ถ้ามีการดูแลเปลี่ยนทรายบ่อย ๆ

ข้อเสียที่ต้องรู้

  • จับตัวเป็นก้อนนิ่มกว่าเบนโทไนต์ ถ้าใช้ไม่ระวัง อาจแตกเละตอนตัก
  • ราคาแพงกว่านิดหน่อย โดยเฉพาะแบรนด์นำเข้า
  • ดูดความชื้นไวเกินไปในบางครั้ง ถ้าอากาศชื้น อาจละลายหรือจับตัวไม่ดี

ทรายแมวเบนโทไนต์: เจ้าตลาดสายเก๋า ราคาน่าคบ

ทรายแมวเบนโทไนต์ เป็นทรายแมวที่ทำจากแร่ธรรมชาติที่ชื่อว่าเบนโทไนต์ มีคุณสมบัติพิเศษในการดูดซับน้ำและจับตัวเป็นก้อนแข็ง นิยมใช้มานานมากในหมู่ทาสแมวมืออาชีพ

ข้อดีของทรายเบนโทไนต์

  • จับตัวเป็นก้อนแข็งแน่น ตักง่าย ไม่แตกเละ
  • ควบคุมกลิ่นดีเยี่ยม โดยเฉพาะรุ่นที่ผสมคาร์บอนหรือกลิ่นหอม
  • ราคาถูกกว่าเต้าหู้ ในปริมาณที่เท่ากัน
  • หาซื้อง่าย มีทุกห้าง ทุกร้านออนไลน์

ข้อเสียที่ต้องคิด

  • ฝุ่นเยอะ (บางรุ่น) อาจทำให้แมวหรือคนจามได้
  • น้ำหนักมาก ขนย้ายลำบาก ถ้าอยู่คอนโดนี่เหนื่อยเลย
  • ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทิ้งแล้วต้องแยกขยะ ไม่ควรเทลงชักโครก
  • อาจติดเท้าแมว ถ้าแมวชอบเล่นทราย อาจพาออกไปทั่วบ้าน

Dooarai สรุปให้ ถ้ามีงบและแมวแค่ 1 ตัว เลือก “เต้าหู้” ถ้ามีหลายตัวหรืออยากประหยัด เลือก “เบนโทไนต์”

ไม่มีทรายแมวแบบไหนดีที่สุดในโลก มีแต่แบบที่ เหมาะกับแมวของเราและชีวิตเรา มากที่สุด

บางบ้านอาจเลือกใช้สองแบบสลับกันเลยก็มี เช่น ใช้เบนโทไนต์ตอนอยู่บ้าน ใช้เต้าหู้ตอนเดินทางหรือวันหยุด เพราะเทง่าย สะดวก ไม่ต้องพกที่ตักเยอะ ๆ

คำแนะนำทาสแมวจาก Dooarai

  • อย่าลืมทดลองทีละน้อยก่อนซื้อเยอะ บางแมวเขาเลือกเองเลยนะว่าชอบแบบไหน
  • ลองเปลี่ยนทีละนิด อย่าเปลี่ยนกะทันหัน เดี๋ยวแมวงง ไม่เข้าห้องน้ำ
  • อย่าลืมตักอึทุกวัน ไม่ว่าจะใช้ทรายแบบไหนก็ตาม
  • อย่าหลงแบรนด์ดังอย่างเดียว อ่านรีวิวจากคนเลี้ยงจริงด้วย

ใครกำลังมองหาทรายแมวที่เหมาะกับบ้านตัวเอง ลองดูโปรเด็ด ๆ ที่เราคัดมาให้ตรงนี้เลย !

ทรายเต้าหู้ตัวเด็ด ใช้ดี ราคาน่ารัก << กดเลย

ทราย Bentonite ถูกและดีราคาน่ารัก << กดเลย

ติดตามบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ดูอะไร 

คู่รักดาราที่ทำให้แฟนๆ ฟินกันทั่วประเทศคงหนีไม่พ้น “อาเล็ก ธีรเดช” และ “โบว์ เมลดา” ที่ล่าสุดเผยโมเมนต์หวานๆ กับแชทแรกที่ทักไปจีบกัน ทำเอาโซเชียลละลายไปตามๆ กัน

อาเล็ก โบว์

จุดเริ่มต้นของความรัก

อาเล็กเล่าว่า พบกับโบว์ครั้งแรกในปี 2564 ขณะถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง “โอเครึเปล่า” ของบอย ตรัย ซึ่งโบว์เป็นนางเอกของเอ็มวี หลังจากนั้น ทั้งคู่เริ่มพูดคุยกันผ่านไอจี ก่อนที่อาเล็กจะตัดสินใจทักไปจีบอย่างจริงจัง

แชทแรกที่ทำให้ใจเต้น

อาเล็กส่งข้อความแนะนำตัวอย่างละเอียดถึงโบว์ว่า

“สวัสดีครับ ผมอาเล็ก ธีรเดช อายุเท่านี้ ชอบกินอะไร ทำอะไรบ้าง…”

โบว์ตอบกลับด้วยข้อความแนะนำตัวในลักษณะเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยความเข้าใจและความจริงใจ

อาเล็ก โบว์

โมเมนต์คลั่งรักที่สนามบิน

เมื่ออาเล็กกลับจากต่างประเทศ โบว์ได้ไปเซอร์ไพรส์ที่สนามบิน พร้อมทักทายว่า

“ว่าไง หนุ่มโสด พร้อมจะมีแฟนหรือยัง?”

โมเมนต์นี้ทำให้แฟนๆ ต่างยิ้มตามและชื่นชมในความน่ารักของทั้งคู่

อาเล็ก โบว์

แผนอนาคตและความหวานที่ไม่ลดลง

โบว์เคยบอกไว้ว่า มีแผนจะแต่งงานตอนอายุ 30 ปี และกำลังศึกษาการฝากไข่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ส่วนอาเล็กก็แสดงความพร้อมและสนับสนุนแผนของโบว์อย่างเต็มที่

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Instagram @lekteeradetch

Instagram @bow_maylada

ไทยรัฐออนไลน์

Mrg Online

Polyplus Entertainment

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

หลังจาก “บีเบล ไอยา” อินฟลูเอนเซอร์สาวหน้าใส ออกมาโพสต์ผ่าน IG ประกาศข่าวสำคัญว่าเธอตั้งครรภ์ และตัดสินใจเป็น “แม่เลี้ยงเดี่ยว” อย่างเข้มแข็ง ล่าสุด ฝ่ายชายซึ่งถูกชาวเน็ตจับตามองมาตลอด ก็ได้ออกมาโพสต์แถลงชี้แจงอย่างเป็นทางการผ่านอินสตาแกรมบัญชี @tnk.o20 เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 พ.ค. 2568)

แฟนเก่าบีเบล

เนื้อหาโพสต์ของฝ่ายชายแบ่งเป็นข้อ ๆ อย่างละเอียด พร้อมระบุว่า “ต้องขอโทษที่ออกมาชี้แจงล่าช้า จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดในบางประเด็น” และยังยืนยันว่า เขา “อยู่เคียงข้างฝ่ายหญิงมาตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา”

สรุปชัด! ฝ่ายชายเคลื่อนไหวอย่างไร?

จากโพสต์นี้ของ @tnk.o20 ที่กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงในชั่วข้ามคืน

แฟนเก่าบีเบล

แฟนเก่าบีเบล

แฟนเก่าบีเบล

ดราม่าไม่จบ! โซเชียลจับพิรุธคำพูด – ชี้เหมือนมีทนายช่วยร่าง

แม้โพสต์ดังกล่าวจะยาวและดูเหมือนชัดเจน แต่เสียงของ “ชาวเน็ต” กลับยังไม่จบ มีหลายแอคเคานต์บน X (Twitter เดิม) ออกมาวิพากษ์การเลือกใช้ถ้อยคำของฝ่ายชายอย่างเผ็ดร้อน

“พึ่งมาลงเพราะกำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่หรอคะ?”

“ข้อความที่พิมพ์ว่า ‘ผมเชื่อในเบื้องต้นว่าเป็นลูกของผม’ คืออะไรคะ? อยู่ด้วยกันตั้งหลายเดือนทำไมยังต้อง ‘เชื่อในเบื้องต้น’ ล่ะ?”

ในขณะที่อีกหลายคนรู้สึกว่า โพสต์ของฝ่ายชายมีภาษาคล้ายเอกสารทางกฎหมาย และสงสัยว่าอาจมี “ทนายช่วยร่างให้” เพื่อควบคุมสถานการณ์และผลกระทบในระยะยาว

จนถึงตอนนี้ “บีเบล” ยังไม่ได้ออกมาตอบกลับหรือพูดถึงโพสต์ชี้แจงของฝ่ายชายอย่างเป็นทางการ แต่หลายคนที่ติดตามเธอใน Instagram ก็ยังคงเข้าไปส่งกำลังใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในคอมเมนต์ที่ยืนยันว่าจะ “อยู่ข้างแม่เลี้ยงเดี่ยวเสมอ”

แต่อย่างไรก็ตาม ดูอะไรเห็นว่าก็มีบางเสียงที่พยายามมองอย่างเป็นกลาง เช่น

“ในเมื่อทั้งคู่บรรลุนิติภาวะแล้ว และต่างคนต่างมีมุมมองของตัวเอง เราเป็นคนนอก อาจจะไม่เห็นทุกอย่างก็ได้”

“ฝ่ายชายก็อธิบายเยอะนะ ฟังดูมีความพยายามจะรับผิดชอบเหมือนกัน”

แสดงให้เห็นว่า แม้โซเชียลจะดูแรง แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้คนมองหลายแง่ไว้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก tnk.o20

และข้อมูลจาก X

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

ผลเลือกตั้งธัญบุรีดุเดือด “พีช บีเอ็ม” ลูกนายกเบี้ยว ยังยืนหนึ่งแม้เจอดราม่าขับรถชน

“พีช บีเอ็ม” ลูกชายนายกเทศมนตรีธัญบุรี ชนะเลือกตั้งแม้มีข่าวฉาวขับรถชน ชาวบ้านยังไว้วางใจหรือแค่พลังบ้านใหญ่หลีนวรัตน์ยังแน่น? วิเคราะห์การเมืองท้องถิ่นแบบเจาะลึก

พีช บีเอ็ม

ดราม่าบีเอ็ม ชนแล้วหนี กลับกลายเป็นแค่กระแสวูบ?

ช่วงต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา สังคมออนไลน์ระอุเมื่อมีคลิปเหตุการณ์รถยนต์ BMW สีดำขับพุ่งใส่รถกระบะคันหนึ่งในพื้นที่ลำลูกกา ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นรถของนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “พีช บีเอ็ม” ลูกชายของ นายกเบี้ยว หรือ นายกธีรวุฒิ หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี

แม้ครอบครัวจะออกมายอมรับว่า “เป็นเหตุเข้าใจผิด” พร้อมทั้งมีการเยียวยาผู้บาดเจ็บและแสดงความเสียใจผ่านสื่อ แต่เสียงในโซเชียลยังคงดังก้อง เรื่องของ “อภิสิทธิ์ชน” ถูกหยิบยกมาพูดถึงอีกครั้ง

แต่สุดท้าย ‘คะแนนเสียง’ คือคำตอบจากประชาชน

ผ่านไปไม่กี่วัน ผลเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลลำลูกกา เขต 2 กลับชัดเจนว่า “พีช บีเอ็ม” ยังได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนในพื้นที่ กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตา — ทำไมคนยังเลือกทั้งที่มีดราม่า? หรือพลังของ “บ้านหลีนวรัตน์” ยังแน่นปึ้กในพื้นที่ธัญบุรี?

การเมืองท้องถิ่นในหลายพื้นที่ของไทยยังมีลักษณะ “บ้านใหญ่ครองเมือง” ซึ่งครอบครัวหลีนวรัตน์ถือเป็นหนึ่งในตระกูลการเมืองที่แข็งแกร่งในจังหวัดปทุมธานีมาหลายสิบปี ด้วยฐานเสียงเก่า การลงพื้นที่ต่อเนื่อง และการบริหารที่หลายคนยอมรับ

แม้โซเชียลมีเดียจะเป็นสนามรบของภาพลักษณ์ แต่การเมืองท้องถิ่นยังเป็นสนามของ “ความผูกพัน” กับประชาชน

  • “เค้าอยู่กับพื้นที่มานาน”
  • “ถึงลูกจะผิด แต่พ่อเค้าทำดีนะ”
  • “เห็นช่วยงานชุมชนตลอด ไม่ได้ทำแค่ตอนหาเสียง”

นี่คือเสียงจากประชาชนในพื้นที่ธัญบุรีที่สื่อหลายสำนักลงพื้นที่สัมภาษณ์ ซึ่งบ่งบอกถึงอีกมุมหนึ่งของการเมืองแบบไทย ๆ ที่อาจดูย้อนแย้งจากโลกโซเชียล แต่กลับสะท้อน “โลกจริง” ได้ชัดเจนที่สุด แต่อย่างไรก็ตามประชาชนคนอื่น ๆ กลับเห็นต่างว่ามีการซื้อเสียงเกิดขึ้น ? มีการตั้งคำถามกับชาวธัญบุรี ว่าคิดอะไรอยู่ ?

พีช บีเอ็ม
ขอบคุณภาพข่าวจาก Thairath News

แม้ “พีช บีเอ็ม” จะรอดจากการเมืองรอบนี้ แต่ภาพลักษณ์ก็ยังสั่นคลอนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและจริยธรรมมากกว่าการสานสัมพันธ์แบบครอบครัว

คำถามคือ เหตุการณ์นี้จะเป็นเพียงบทเรียนเล็ก ๆ หรืออาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านในพื้นที่ธัญบุรีในอนาคต?

บ้านใหญ่จะยังครองพื้นที่ได้นานแค่ไหน?

แม้ตระกูลหลีนวรัตน์จะยังคงแข็งแรง แต่อย่าลืมว่าการเมืองรุ่นใหม่กำลังคืบคลานเข้ามา พรรคการเมืองระดับชาติหลายพรรคเริ่มหันมาจับตาการเมืองท้องถิ่นมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่อย่างปทุมธานีที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงสูงหากมีแคนดิเดตที่น่าเชื่อถือ และใช้นโยบายที่จับต้องได้

บทสรุป คนเลือก “บ้านหลีนวรัตน์” หรือแค่ “ไม่มีตัวเลือก”?

ดูอะไรคิดว่าสุดท้าย คำถามที่หลายคนตั้งไว้ก็คือ ประชาชนเลือก “พีช บีเอ็ม” เพราะเขาและครอบครัวทำดีจริง หรือเพราะระบบท้องถิ่นไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้? คำตอบคงไม่ตายตัว และอาจเปลี่ยนไปในทุกการเลือกตั้ง ประชาชนก็ต้องมาลุ้นอนาคตกันต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :

ไทยรัฐออนไลน์

Bangkok Biz News 

MGR Online

TikTok วัชรา ตาคำ

Thairath News

 

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official