28/09/2025

Others

5 ประเภทคนที่ไม่ควรคบ ถ้าอยากสำเร็จเร็ว
5 ประเภทคนที่ไม่ควรคบ ถ้าอยากสำเร็จเร็ว

5 ประเภทคนที่ไม่ควรคบ ถ้าเราอยากสำเร็จเร็ว

คนที่ไม่ควรคบ ถ้าเราอยากสำเร็จเร็ว ไม่ได้หมายถึงการตัดขาดใครอย่างรุนแรง แต่หมายถึงการระวังพลังงานรอบตัวที่อาจฉุดรั้งเราโดยไม่รู้ตัว เพราะเส้นทางสู่ความสำเร็จ ไม่ได้วัดแค่จากความสามารถ แต่รวมถึง “คนที่อยู่รอบข้าง” ด้วย

1. คนที่ไม่เคยเชื่อในความฝันของเรา

ทุกครั้งที่คุณเล่าความฝัน คนประเภทนี้จะพูดว่า “มันยากไปไหม?” หรือ “คิดเยอะไปหรือเปล่า?” การอยู่กับคนแบบนี้นาน ๆ จะทำให้คุณสงสัยในตัวเอง และไม่กล้าเริ่มอะไรใหม่

2. คนที่มองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา

คนที่เอาแต่บ่น ชอบดึงเรื่องแย่ ๆ มาเล่า มักจะเป็นตัวถ่วงความสำเร็จ เพราะพลังงานลบสามารถแพร่กระจายได้ไว พอคุณเริ่มเห็นแต่ข้อเสีย คุณจะหมดไฟแบบไม่รู้ตัว

3. คนที่ไม่เคยลงมือทำ แต่ชอบวิจารณ์

คนกลุ่มนี้มักจะพูดมากกว่าทำ คอยบอกว่าสิ่งนั้นควรทำแบบนี้ สิ่งนี้ไม่น่าจะเวิร์ก ทั้งที่ไม่เคยลองจริง ๆ การฟังคำวิจารณ์จากคนที่ไม่เคยลงมือ อาจทำให้คุณเสียโฟกัส

4. คนที่แข่งขันโดยไม่มีพัฒนาการ

พวกเขาไม่ได้อยากเก่งขึ้น แต่อยากแค่เหนือกว่าคุณ คนแบบนี้จะไม่สนับสนุน แต่จะรู้สึกอิจฉา และพยายามลดคุณค่าความสำเร็จของคุณ

5. คนที่ไม่เคยยินดีกับความสำเร็จของใคร

เมื่อคุณประสบความสำเร็จ คนประเภทนี้มักจะพูดว่า “ก็แค่โชคดี” หรือ “ใคร ๆ ก็ทำได้” ถ้าคุณอยู่ใกล้เขานาน ๆ คุณจะเริ่มรู้สึกผิดที่ประสบความสำเร็จ

บทสรุป: คนที่ไม่ควรคบ ถ้าอยากสำเร็จเร็ว เราเลือกอยู่กับคนที่ช่วยผลัก ไม่ใช่ฉุด

คนที่ไม่ควรคบ ถ้าเราอยากสำเร็จเร็ว คือคนที่ขัดขวางการเติบโตของคุณแบบเงียบ ๆ ลองสังเกตให้ดีว่าใครทำให้คุณหมดไฟ ใครทำให้คุณลังเลที่จะลุย แล้วเลือกอยู่กับคนที่ “เชื่อในคุณ” อย่างแท้จริง

อ่านบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทัศนคติของคนสำเร็จที่คุณควรมี

ดูแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมที่ Success.com

อ่านต่อ: ดูดวง

อ่านบทความก่อนหน้า: ปิดดวงครึ่งปีหลัง 2568 รวยจากออนไลน์ ราศีไหนจะปังที่สุด

 

 

DooArai FB Article 4 1

บริจาคฝาขวด สร้างโต๊ะนักเรียน เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์ ส่งต่อโอกาสการศึกษา

โครงการ GREEN ROAD ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยการบริจาคขยะพลาสติก เช่น ฝาขวดพลาสติก ขวด PET ถุงพลาสติก และ ถุงวิบวับ ที่ไม่ได้ใช้งานอีกต่อไป เพื่อนำไปแปรรูปเป็นโต๊ะเก้าอี้และอุปกรณ์การเรียนให้กับโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยและแผ่นดินไหว

🌱 การเปลี่ยนขยะพลาสติกให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์การศึกษา
การนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ (Upcycling) ไม่เพียงช่วยลดปัญหาขยะล้นโลก แต่ยังช่วยสร้างโอกาสให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่เรียนรู้ที่ปลอดภัยและสะอาด การบริจาคขยะพลาสติกจึงเป็นมากกว่าการทิ้ง แต่คือการส่งต่อความหวังและโอกาสทางการศึกษา

สิ่งที่รับบริจาค: 

ขยะพลาสติกประเภทใดบริจาคได้บ้าง ??

1️⃣ ฝาขวดพลาสติก PE หรือ PP

  • ใช้ทำโต๊ะเก้าอี้ให้กับนักเรียนในโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยcollage 3

2️⃣ ถุงพลาสติกยืดได้ทั่วไป

  • ถุงหูหิ้ว PE/PP, ถุงแกงร้อน/เย็น, ถุงนมโรงเรียน, ถุงน้ำตาลทราย, ถุงผักผลไม้, ถุงขนมปัง, ถุงน้ำแข็ง

  • ใช้ทำถนนสีเขียวเข้าสู่อุทยานแห่งชาติ
    collage2

3️⃣ ขวดพลาสติก PET, แก้วกาแฟ PE/PP, หลอดดูด, ขวดนมพลาสติก

  • ใช้ทำบล็อกปูพื้นในวัดและโรงเรียน
    collage3 1

4️⃣ ถุงวิบวับ, ซองกาแฟ 3 in 1, ถุงอาหารหมาแมว

  • ใช้ทำบล็อกปูพื้น โต๊ะเก้าอี้สนามในสวนสาธารณะ สร้างห้องเรียนให้กับเด็ก ๆ
    collage 3 1

🚚 ส่งด้วยตัวเองที่:
โครงการกรีนโรด
148/3 หมู่ที่ 19 ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน 51000
📱 โทร. 088-684-3104

📝 หมายเหตุ:
สำหรับบริษัท ห้างร้าน หรือหน่วยงานเอกชน โปรดติดต่อทาง Inbox ก่อนส่งร่วมบริจาค

Screenshot 2025 05 18 at 4.22.55 AM

💚 ร่วมกันลดโลก ส่งต่อความหวัง ด้วยการบริจาคฝาขวด
การบริจาคขยะพลาสติกในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังช่วยสร้างโอกาสให้เด็กนักเรียนได้มีอุปกรณ์การเรียนและสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น มาร่วมกันเปลี่ยนขยะให้เป็นประโยชน์กันนะคะ!

🌟 ติดตามเพจ GREEN ROAD:
หากสนใจร่วมบริจาคหรือติดตามโครงการ สามารถเข้าไปที่เพจ Facebook: GREEN ROAD เพื่อรับข้อมูลอัปเดตและกิจกรรมล่าสุด

💪 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดขยะและส่งต่อโอกาสให้กับเด็กนักเรียนและชุมชนกับโครงการ GREEN ROAD! 💚🌏♻️
#GreenRoad #Upcycling #บริจาคขยะพลาสติก #ลดโลก #แชร์ต่อไม่ใช่แค่ได้บุญ #ช่วยเหลือเด็กนักเรียน

ขอบคุณข้อมูลจาก https://greenroadenterprise.com/ 

อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

รวม 5 ไอเทมรับหน้าฝนที่ควรมีติดตัวและติดบ้าน! ตั้งแต่ร่มกันฝน เสื้อกันฝน เครื่องฟอกอากาศ ไปจนถึงเจลกันยุง พร้อมแนะนำรุ่นน่าใช้ ราคาไม่แรง ซื้อออนไลน์ได้เลย ตาม Dooarai มาดูกัน !

1. ร่มกันฝนดี ๆ สักคัน ใช้ทน ใช้จริง ไม่พังกลางทาง

อย่าคิดว่าร่มแค่ร่ม ซื้อถูก ๆ ตามตลาดก็พอ… พอถึงเวลาจริง ร่มพลิก ร่มพังกลางฝน จะรู้สึกเลยว่า “ไม่คุ้ม”

แนะนำร่มขนาดพกพาแบบ 2-3 ตอน มีโครงไฟเบอร์กันลมดี น้ำหนักเบา และเคลือบกัน UV ได้ด้วย จะยิ่งคุ้ม

แนะนำ ร่มคุณภาพดี กันลม กันฝน กันแดด

2. เสื้อกันฝนแบบพับเก็บได้ พกง่าย ไม่เปียกไม่โป๊ะ

ใครที่ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือเดินทางบ่อยในช่วงหน้าฝน เสื้อกันฝนเป็นของที่ควรมีเสมอ

เดี๋ยวนี้มีเสื้อกันฝนแบบพับเก็บได้ใส่ถุงเล็ก ๆ น้ำหนักเบา ไม่เปลืองที่ พกใส่กระเป๋าได้เลย

แนะนำ เสื้อกันฝน EVA แบบมีฮู้ด กันฝนได้จริงไม่ร้อน

3. เครื่องลดความชื้นในบ้าน – หน้าฝนย่อมมากับความเปียกชื้น

อากาศในหน้าฝนมีความชื้นสูง แถมบางวันยังมีกลิ่นอับ ฝุ่น หรือเชื้อราจากเฟอร์นิเจอร์ผ้า ๆ ทำให้ตัวเหนียว นอนไม่สบายอีกต่างหาก

การมีเครื่องลดความชื้นในบ้าน ช่วยปรับสภาพอากาศให้มีความชื้นที่พอดี เหมาะสมกับการอยู่บ้าน ลองใช้ดูแล้วจะอึ้งแน่นอน !

แนะนำ เครื่องลดความชื้นตัวนี้เลย

4. เจลกันยุง & สเปรย์กันยุง ป้องกันไข้เลือดออก

หน้าฝนเป็นฤดูโปรดของยุง! ยิ่งมีน้ำขัง ยิ่งระบาดเร็ว ยิ่งในบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง ต้องระวังเป็นพิเศษ

แนะนำ สเปรย์กันยุงออแกนิค

5. ผ้าเช็ดตัวแบบพกพา หรือผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์

ไม่ว่าฝนตกกระทันหัน หรือโดนละอองฝนจนเสื้อเปียกนิด ๆ ผ้าเช็ดตัวดี ๆ ช่วยให้เราแห้งไว ไม่เป็นหวัด

เลือกแบบไมโครไฟเบอร์ที่ซับน้ำเร็ว น้ำหนักเบา และแห้งเร็ว พกใส่กระเป๋าไว้เลย

แนะนำ ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ ซับน้ำไว

Dooarai อยากบอกว่า ! หน้าฝนถ้ามีของดีติดตัวไว้ จะสบายใจกว่ามาก

หลายคนมองข้ามของใช้เล็ก ๆ เหล่านี้ในหน้าฝน แต่เชื่อเถอะ… เวลาที่ฝนตกหนัก หรืออยู่ในสถานการณ์ที่เปียกไม่ทันตั้งตัว แค่มีไอเทมเหล่านี้ในกระเป๋า หรือในบ้าน ก็ช่วยให้ผ่านวันแย่ ๆ ไปได้แบบไม่เปียก ไม่ป่วย ไม่หงุดหงิด สบายใจไปอีกวัน

ติดตามบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร (https://www.dooarai.com/)

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

โผล่ชื่อ “เจ้าคุณแย้ม” กลางคดีเงินหายจากวัดไร่ขิง

กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการสงฆ์ เมื่อพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ “เจ้าคุณแย้ม” เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 เข้าสู่กระบวนการสอบสวนของตำรวจ บก.ปปป. หลังถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้คาดว่าไหลเข้าขบวนการเว็บพนันออนไลน์

คดีเริ่มจากการสืบสวนเครือข่ายเว็บพนันที่มีบัญชีต้องสงสัยหลายรายการ หนึ่งในนั้นปรากฏชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการเงินของวัดไร่ขิง ซึ่งเชื่อมโยงกับหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกจับได้ว่ารับโอนเงินจากวัด ก่อนจะส่งต่อให้กลุ่มพนัน

เจ้าอาวาสมอบตัว แสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ยังไม่มีข้อยุติ

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 พระธรรมวชิรานุวัตรเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ด้วยตนเอง โดยให้เหตุผลว่าต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่างในการสอบสวน

เบื้องต้นยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหากับพระธรรมวชิรานุวัตรโดยตรง แต่การสอบสวนกำลังขยายผลไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเงินวัด ซึ่งอาจรวมถึงฝ่ายเลขาฯ หรือคนใกล้ชิด

แฉเส้นทางเงินวัด 300 ล้าน เข้ากระเป๋าเว็บพนัน

ข้อมูลจากการสอบสวนเผยว่าเงินจากบัญชีของวัดไร่ขิงหลายครั้งถูกโอนไปยังบัญชีบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหญิงสาวที่ทำหน้าที่ “ตัวกลาง” โอนเงินต่อไปยังเครือข่าย

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนมากกว่า 8 เดือน เพื่อแกะรอยธุรกรรมทั้งหมด ก่อนจะนำไปสู่การออกหมายจับหญิงคนดังกล่าว และเชื่อว่าคดีนี้อาจมี “ผู้มีอิทธิพล” หรือบุคคลระดับสูงในวงการสงฆ์เกี่ยวข้อง

เสื่อมศรัทธา-สั่นคลอนความเชื่อ ชาวพุทธตั้งคำถาม

เมื่อข่าวนี้กระจายออกไป สังคมออนไลน์ต่างพากันตั้งคำถามว่า ทำไมเงินวัดที่ญาติโยมนำมาทำบุญกลับถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโยงถึงการพนันออนไลน์ที่เข้าข่ายผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม

หลายเสียงเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดต่าง ๆ อย่างเข้มข้น และเรียกร้องความโปร่งใสจากพระชั้นผู้ใหญ่

คดีนี้จบยัง? ต้องจับตาต่อ

ถึงตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาโดยตรงกับพระธรรมวชิรานุวัตร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และหากพบพยานหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายไม่เว้นแม้แต่พระชั้นผู้ใหญ่

ขณะที่ชาวพุทธจำนวนมากยังเฝ้าจับตาความคืบหน้าของคดี เพราะเงิน 300 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ใช่แค่เงิน แต่หมายถึง “ศรัทธา” ที่กำลังถูกตั้งคำถาม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร (https://www.dooarai.com/)

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

แม้จะผ่านมา 3-4 ปีแล้ว แต่ “WFH” หรือการทำงานจากบ้านก็ยังเป็นสไตล์ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ไม่หายไปไหน ยิ่งบริษัทเริ่มยืดหยุ่นมากขึ้น หลายคนก็เริ่มลงทุน “แต่งออฟฟิศในบ้าน” ให้ทำงานได้แบบจริงจัง ไม่ใช่แค่นั่งบนโซฟากอดหมาทำงานอีกต่อไป

แล้วจะมีอะไรบ้างล่ะ ที่ช่วยให้ชีวิต WFH สะดวกขึ้น ไม่ต้องปวดหลัง ปวดตา หรือรู้สึกเหมือนโดนขัง วันนี้ Dooarai ขอจัดเต็ม 7 Gadget ตัวเด็ด ที่จะเปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็น “ที่ทำงานในฝัน” ได้เลย!

1. โต๊ะทำงานแบบลุก-นั่งได้ (Adjustable Standing Desk)

ใครที่ต้องนั่งประชุมยาว ๆ 4-5 ชั่วโมงต่อวันควรมีไว้เลย โต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ จะช่วยให้คุณสลับระหว่างการ “นั่งทำงาน” กับ “ยืนพิมพ์งาน” ได้แบบไม่ปวดหลัง ไม่บล็อกกระดูกคอ แถมยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้นอีกด้วย

โต๊ะทำงานราคาดี คุณภาพสูง กดเลย

2. เก้าอี้ทำงานที่ซัพพอร์ตหลังจริงจัง

อย่าประหยัดกับเก้าอี้! เพราะการนั่งทำงาน 6-8 ชั่วโมงบนเก้าอี้แข็ง ๆ นอกจากจะปวดหลังแล้ว ยังอาจพาให้เรากลายเป็นผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมแบบไม่รู้ตัว เก้าอี้ทำงานที่ดีควรปรับพนักพิงได้ รองรับกระดูกสันหลัง และมีที่รองแขนที่ไม่ทำให้ไหล่ล้า

เก้าอี้ซัพพอร์ตที่เราแนะนำ กดเลย

3. หูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling Headphones)

อยู่บ้านไม่ได้แปลว่าเงียบเสมอไป เสียงรถ เสียงคนขายของ หรือแม้แต่แมวที่วิ่งชนโต๊ะก็สามารถทำให้เราหลุดสมาธิได้ หูฟังตัดเสียงรบกวนจึงเป็นของที่คน WFH ต้องมี โดยเฉพาะเวลาประชุมออนไลน์ที่ไม่อยากให้เสียงรบกวนเข้าไมค์

หูฟังที่ชาว WFH ต้องมี แบบครอบหูไร้สายเก๋ ๆ กดเลย

หูฟังแบบเล็กกระทัดรัด แต่คุณภาพสูง กดเลย

4. กล้องเว็บแคม Full HD พร้อมไมโครโฟ

แม้โน้ตบุ๊กจะมีกล้องอยู่แล้ว แต่คุณภาพมักจะแค่พอใช้เท่านั้น ถ้าอยากให้ภาพชัดแจ๋ว หน้าไม่เบลอ แถมเสียงคมชัด กล้องเว็บแคมแยกคุณภาพสูงคือคำตอบ! จะประชุม หรือจะ Live สด ก็เอาอยู่

กล้องชัด มีตติ้งไม่สดุด กดเลย

5. โคมไฟตั้งโต๊ะปรับแสงได้

แสงที่ดีช่วยลดความล้าในตาได้มาก โดยเฉพาะตอนพิมพ์งานหรือจ้องหน้าจอนาน ๆ โคมไฟ LED ที่สามารถปรับแสงและอุณหภูมิสีได้ จะช่วยให้ดวงตาคุณรู้สึกสบาย ไม่แสบ ไม่เครียดตอนค่ำ

โคมไฟแสงนวล กดเลย 

6. แท่นวางโน้ตบุ๊ก (Laptop Stand) + คีย์บอร์ดไร้สาย

ไม่อยากหลังค่อมคอเอียง แนะนำให้ยกระดับโน้ตบุ๊กขึ้น แล้วใช้คีย์บอร์ดและเมาส์แยก จะช่วยให้ท่าทางดีขึ้น แถมดูโปรขึ้นอีกต่างหาก

แท่นวางโน้ตบุ๊กสุดจำเป็น กดเลย

คีย์บอร์ด + เมาส์ไร้สาย มือโปรต้องมี กดเลย

7. เครื่องฟอกอากาศจิ๋วแต่แจ๋ว

อย่าคิดว่าอยู่ในบ้านแล้วจะปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 หรือเชื้อโรคในอากาศ เครื่องฟอกอากาศขนาดพอเหมาะช่วยให้ห้องทำงานของคุณสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลดภูมิแพ้ ป้องกันกลิ่นอับ ทำให้ทำงานได้สบายทั้งวัน

ของสำคัญอย่างเครื่องฟอกอากาศ เราคัดมาแล้ว กดเลย !

ดูอะไรสรุปให้ ! ลงทุน Gadget เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การ WFH อาจดูสะดวก แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์ดี ๆ ก็อาจกลายเป็นต้นเหตุของความเครียด และสุขภาพพังในระยะยาวได้ Gadget เหล่านี้อาจมีราคาสูงบ้างในบางชิ้น แต่รับรองว่า “คุ้ม” กับสุขภาพกายและใจของคุณแน่นอน

ติดตามบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

อยู่บ้านก็แทบละลาย จะหนีร้อนก็ไม่มีที่ไป… แล้วจะแต่งบ้านหน้าร้อนยังไงให้เย็นกายเย็นใจ แถมยังสวยถูกจริตเรา?

ถึงเวลาเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นมุมพักใจสุดคลู ด้วยวิธีแต่งบ้านหน้าร้อนที่ทั้งประหยัดและดูดีแบบไม่ต้องง้อดีไซเนอร์ ส่วนจะมีไอเทมไหนน่าโดนบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย

เริ่มที่พื้นฐาน “สี” และ “แสง” ก่อน!

  • เลือกโทนสีเย็น เช่น ฟ้าอ่อน เขียวมิ้นต์ หรือสีขาวไข่
  • เปลี่ยนผ้าม่าน ผ้าปู พรม ให้ดูเบาสบาย
  • ใช้หลอดไฟ LED สี Daylight ลดความร้อนในห้อง

ของแต่งบ้านหน้าร้อนที่ต้องมี!

1. ม่านกันแดดแบบ UV Block

ช่วยกันรังสียูวี ลดอุณหภูมิภายในบ้านได้จริง

ดูม่านกันร้อนคุณภาพดี คลิกที่นี่

2. พัดลมไอเย็น / พัดลมตั้งโต๊ะ

ประหยัดไฟกว่าแอร์ แถมลมเย็นแบบไม่แห้ง

เช็กพัดลมไอเย็นรุ่นขายดีที่นี่

3. น้ำหอมในบ้านกลิ่นเย็นๆ

เช่น ยูคาลิปตัส หรือซีตรัส ช่วยให้บ้านรู้สึกสดชื่น

เลือกกลิ่นหอมหน้าร้อนยอดฮิต คลิกเลย

เพิ่มมุมต้นไม้ = เพิ่มความเย็นแบบธรรมชาติ

ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้จริงหรือต้นไม้ปลอม แค่มี “สีเขียว” บ้านก็ดูสบายตาและลดความเครียดได้ทันที

  • ลิ้นมังกร – ฟอกอากาศดีมาก
  • ยางอินเดีย – โทนเขียวเข้มสวย
  • ไทรใบสัก – สายมินิมอลต้องมี

เลือกต้นไม้แต่งบ้านหน้าร้อนคลิกเลย

DIY ง่ายๆ ไม่เปลืองงบ

  • เปลี่ยนปลอกหมอนเป็นผ้าลินิน
  • วางกระจกสะท้อนแสงให้ห้องดูโปร่ง
  • ติดวอลเปเปอร์ลาย Tropical เพิ่มความสดชื่น

ดูอะไรสรุปให้ ! แต่งบ้านหน้าร้อน = แต่งใจให้เย็น

ไม่ว่าจะเลือกเริ่มจากจุดเล็ก ๆ หรือเปลี่ยนมุมทั้งบ้าน สิ่งสำคัญคือการทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นในช่วงหน้าร้อนนี้ — เพราะบ้านที่เย็นสบาย คือที่ที่ใจเราอยากกลับมา

อย่ารอช้า! ลองแต่งบ้านหน้าร้อนในแบบที่ใช่ แล้วแชร์ไอเดียให้เพื่อน ๆ กันได้เลย

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ Dooarai

ใครที่มีแมวเป็นลูกต้องอ่าน! เรื่อง “ทรายแมว” นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยนะ เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงความสะดวกของน้องเหมียวแล้ว เจ้าของอย่างเราก็ต้องคิดถึงเรื่องกลิ่น ความสะอาด และกระเป๋าตังค์ด้วย วันนี้ Dooarai จะพาไปเจาะลึกแบบไม่มีอวย ว่าระหว่าง ทรายแมวเต้าหู้ กับ ทรายแมวเบนโทไนต์ อันไหนดีกว่า? เหมาะกับใคร? แล้วคุณควรเลือกอะไรให้เจ้านายที่บ้านกันแน่?

ทรายแมวเต้าหู้: ทางเลือกสายออร์แกนิกที่กำลังมาแรง

ทรายแมวเต้าหู้ ทำมาจากกากถั่วเหลืองหรือเส้นใยพืชต่าง ๆ มีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก เบา สีขาวนวล ๆ คล้ายข้าวโพดป่น บางคนก็เรียก “ทรายแมวออร์แกนิก” เพราะมันเป็นมิตรต่อโลกและต่อแมวสุด ๆ

ข้อดีของทรายแมวเต้าหู้

  • ย่อยสลายง่าย เทลงชักโครกได้เลย ไม่ต้องแยกขยะให้วุ่นวาย
  • ปลอดภัยกับแมวเลีย เพราะทำจากวัสดุธรรมชาติ ถ้าน้องเผลอเลียเข้าปากก็ไม่เป็นอันตราย
  • น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ไม่ปวดหลังเวลาเปลี่ยนถุง
  • กลบกลิ่นได้ดีพอสมควร ถ้ามีการดูแลเปลี่ยนทรายบ่อย ๆ

ข้อเสียที่ต้องรู้

  • จับตัวเป็นก้อนนิ่มกว่าเบนโทไนต์ ถ้าใช้ไม่ระวัง อาจแตกเละตอนตัก
  • ราคาแพงกว่านิดหน่อย โดยเฉพาะแบรนด์นำเข้า
  • ดูดความชื้นไวเกินไปในบางครั้ง ถ้าอากาศชื้น อาจละลายหรือจับตัวไม่ดี

ทรายแมวเบนโทไนต์: เจ้าตลาดสายเก๋า ราคาน่าคบ

ทรายแมวเบนโทไนต์ เป็นทรายแมวที่ทำจากแร่ธรรมชาติที่ชื่อว่าเบนโทไนต์ มีคุณสมบัติพิเศษในการดูดซับน้ำและจับตัวเป็นก้อนแข็ง นิยมใช้มานานมากในหมู่ทาสแมวมืออาชีพ

ข้อดีของทรายเบนโทไนต์

  • จับตัวเป็นก้อนแข็งแน่น ตักง่าย ไม่แตกเละ
  • ควบคุมกลิ่นดีเยี่ยม โดยเฉพาะรุ่นที่ผสมคาร์บอนหรือกลิ่นหอม
  • ราคาถูกกว่าเต้าหู้ ในปริมาณที่เท่ากัน
  • หาซื้อง่าย มีทุกห้าง ทุกร้านออนไลน์

ข้อเสียที่ต้องคิด

  • ฝุ่นเยอะ (บางรุ่น) อาจทำให้แมวหรือคนจามได้
  • น้ำหนักมาก ขนย้ายลำบาก ถ้าอยู่คอนโดนี่เหนื่อยเลย
  • ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทิ้งแล้วต้องแยกขยะ ไม่ควรเทลงชักโครก
  • อาจติดเท้าแมว ถ้าแมวชอบเล่นทราย อาจพาออกไปทั่วบ้าน

Dooarai สรุปให้ ถ้ามีงบและแมวแค่ 1 ตัว เลือก “เต้าหู้” ถ้ามีหลายตัวหรืออยากประหยัด เลือก “เบนโทไนต์”

ไม่มีทรายแมวแบบไหนดีที่สุดในโลก มีแต่แบบที่ เหมาะกับแมวของเราและชีวิตเรา มากที่สุด

บางบ้านอาจเลือกใช้สองแบบสลับกันเลยก็มี เช่น ใช้เบนโทไนต์ตอนอยู่บ้าน ใช้เต้าหู้ตอนเดินทางหรือวันหยุด เพราะเทง่าย สะดวก ไม่ต้องพกที่ตักเยอะ ๆ

คำแนะนำทาสแมวจาก Dooarai

  • อย่าลืมทดลองทีละน้อยก่อนซื้อเยอะ บางแมวเขาเลือกเองเลยนะว่าชอบแบบไหน
  • ลองเปลี่ยนทีละนิด อย่าเปลี่ยนกะทันหัน เดี๋ยวแมวงง ไม่เข้าห้องน้ำ
  • อย่าลืมตักอึทุกวัน ไม่ว่าจะใช้ทรายแบบไหนก็ตาม
  • อย่าหลงแบรนด์ดังอย่างเดียว อ่านรีวิวจากคนเลี้ยงจริงด้วย

ใครกำลังมองหาทรายแมวที่เหมาะกับบ้านตัวเอง ลองดูโปรเด็ด ๆ ที่เราคัดมาให้ตรงนี้เลย !

ทรายเต้าหู้ตัวเด็ด ใช้ดี ราคาน่ารัก << กดเลย

ทราย Bentonite ถูกและดีราคาน่ารัก << กดเลย

ติดตามบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ดูอะไร 

ผลเลือกตั้งธัญบุรีดุเดือด “พีช บีเอ็ม” ลูกนายกเบี้ยว ยังยืนหนึ่งแม้เจอดราม่าขับรถชน

“พีช บีเอ็ม” ลูกชายนายกเทศมนตรีธัญบุรี ชนะเลือกตั้งแม้มีข่าวฉาวขับรถชน ชาวบ้านยังไว้วางใจหรือแค่พลังบ้านใหญ่หลีนวรัตน์ยังแน่น? วิเคราะห์การเมืองท้องถิ่นแบบเจาะลึก

พีช บีเอ็ม

ดราม่าบีเอ็ม ชนแล้วหนี กลับกลายเป็นแค่กระแสวูบ?

ช่วงต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา สังคมออนไลน์ระอุเมื่อมีคลิปเหตุการณ์รถยนต์ BMW สีดำขับพุ่งใส่รถกระบะคันหนึ่งในพื้นที่ลำลูกกา ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นรถของนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “พีช บีเอ็ม” ลูกชายของ นายกเบี้ยว หรือ นายกธีรวุฒิ หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี

แม้ครอบครัวจะออกมายอมรับว่า “เป็นเหตุเข้าใจผิด” พร้อมทั้งมีการเยียวยาผู้บาดเจ็บและแสดงความเสียใจผ่านสื่อ แต่เสียงในโซเชียลยังคงดังก้อง เรื่องของ “อภิสิทธิ์ชน” ถูกหยิบยกมาพูดถึงอีกครั้ง

แต่สุดท้าย ‘คะแนนเสียง’ คือคำตอบจากประชาชน

ผ่านไปไม่กี่วัน ผลเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลลำลูกกา เขต 2 กลับชัดเจนว่า “พีช บีเอ็ม” ยังได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนในพื้นที่ กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตา — ทำไมคนยังเลือกทั้งที่มีดราม่า? หรือพลังของ “บ้านหลีนวรัตน์” ยังแน่นปึ้กในพื้นที่ธัญบุรี?

การเมืองท้องถิ่นในหลายพื้นที่ของไทยยังมีลักษณะ “บ้านใหญ่ครองเมือง” ซึ่งครอบครัวหลีนวรัตน์ถือเป็นหนึ่งในตระกูลการเมืองที่แข็งแกร่งในจังหวัดปทุมธานีมาหลายสิบปี ด้วยฐานเสียงเก่า การลงพื้นที่ต่อเนื่อง และการบริหารที่หลายคนยอมรับ

แม้โซเชียลมีเดียจะเป็นสนามรบของภาพลักษณ์ แต่การเมืองท้องถิ่นยังเป็นสนามของ “ความผูกพัน” กับประชาชน

  • “เค้าอยู่กับพื้นที่มานาน”
  • “ถึงลูกจะผิด แต่พ่อเค้าทำดีนะ”
  • “เห็นช่วยงานชุมชนตลอด ไม่ได้ทำแค่ตอนหาเสียง”

นี่คือเสียงจากประชาชนในพื้นที่ธัญบุรีที่สื่อหลายสำนักลงพื้นที่สัมภาษณ์ ซึ่งบ่งบอกถึงอีกมุมหนึ่งของการเมืองแบบไทย ๆ ที่อาจดูย้อนแย้งจากโลกโซเชียล แต่กลับสะท้อน “โลกจริง” ได้ชัดเจนที่สุด แต่อย่างไรก็ตามประชาชนคนอื่น ๆ กลับเห็นต่างว่ามีการซื้อเสียงเกิดขึ้น ? มีการตั้งคำถามกับชาวธัญบุรี ว่าคิดอะไรอยู่ ?

พีช บีเอ็ม
ขอบคุณภาพข่าวจาก Thairath News

แม้ “พีช บีเอ็ม” จะรอดจากการเมืองรอบนี้ แต่ภาพลักษณ์ก็ยังสั่นคลอนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและจริยธรรมมากกว่าการสานสัมพันธ์แบบครอบครัว

คำถามคือ เหตุการณ์นี้จะเป็นเพียงบทเรียนเล็ก ๆ หรืออาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านในพื้นที่ธัญบุรีในอนาคต?

บ้านใหญ่จะยังครองพื้นที่ได้นานแค่ไหน?

แม้ตระกูลหลีนวรัตน์จะยังคงแข็งแรง แต่อย่าลืมว่าการเมืองรุ่นใหม่กำลังคืบคลานเข้ามา พรรคการเมืองระดับชาติหลายพรรคเริ่มหันมาจับตาการเมืองท้องถิ่นมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่อย่างปทุมธานีที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงสูงหากมีแคนดิเดตที่น่าเชื่อถือ และใช้นโยบายที่จับต้องได้

บทสรุป คนเลือก “บ้านหลีนวรัตน์” หรือแค่ “ไม่มีตัวเลือก”?

ดูอะไรคิดว่าสุดท้าย คำถามที่หลายคนตั้งไว้ก็คือ ประชาชนเลือก “พีช บีเอ็ม” เพราะเขาและครอบครัวทำดีจริง หรือเพราะระบบท้องถิ่นไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้? คำตอบคงไม่ตายตัว และอาจเปลี่ยนไปในทุกการเลือกตั้ง ประชาชนก็ต้องมาลุ้นอนาคตกันต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :

ไทยรัฐออนไลน์

Bangkok Biz News 

MGR Online

TikTok วัชรา ตาคำ

Thairath News

 

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

คุณเชื่อไหมว่าแค่มีรายได้ปานกลางก็สามารถวางแผนเกษียณก่อนวัยได้จริง.. เรื่องราวต่อไปนี้อาจเปลี่ยนมุมมองของคุณไปตลอดกาล

สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว
สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว

การเกษียณตั้งแต่อายุน้อยไม่ได้จำกัดอยู่ที่ผู้มีรายได้สูงหรือเจ้าของธุรกิจเท่านั้น คนทำงานประจำทั่วไปก็สามารถเริ่มต้นได้ หากมีหลักคิดที่ถูกต้องและลงมือทำอย่างมีวินัย

หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคือหญิงสาวชาวอังกฤษวัย 23 ปี ซึ่งสามารถเก็บเงินหลักล้านได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และเกษียณเมื่ออายุ 40 ปี เธอไม่ได้ถูกรางวัลใหญ่ ไม่ได้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ใช้ “การวางแผนทางการเงิน” และ “การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย” เป็นเครื่องมือในการสร้างอนาคตที่มั่นคง

ทำไมการวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุน้อยถึงสำคัญ?

การเริ่มต้นเร็วย่อมได้เปรียบเสมอ โดยเฉพาะกับการออมและลงทุน เพราะ ดอกเบี้ยทบต้น คือพลังมหัศจรรย์ที่สร้างความมั่งคั่งได้หากเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้

แม้ว่าการเกษียณจะฟังดูไกลตัว แต่หากคุณเริ่มเร็ว คุณจะมีโอกาสใช้ชีวิตอย่างอิสระโดยไม่ต้องผูกติดกับการทำงานไปตลอดชีวิต


3 แนวทางวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุน้อยที่ใครก็ทำตามได้

1. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น – สร้างวินัยทางการเงิน

การบริหารเงินอย่างมีสติคือจุดเริ่มต้นของอิสรภาพทางการเงิน เช่น เลือกเดินทางด้วยวิธีประหยัด ทำอาหารทานเอง ใช้ของมือสอง หรือหลีกเลี่ยงการผ่อนสินค้าฟุ่มเฟือยผ่านบัตรเครดิต

สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว
สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว

“การควบคุมพฤติกรรมการใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุกวัน จะสะสมกลายเป็นผลลัพธ์มหาศาลในอนาคต”

2. หลีกเลี่ยง 5 สิ่งที่ดูเหมือนเล็กน้อยแต่กินเงินมหาศาล

การลดค่าใช้จ่ายที่ดูเล็กน้อย แต่เกิดซ้ำบ่อย ๆ เป็นทางลัดที่ดีในการเพิ่มเงินเก็บ เช่น:

  • เลิกซื้อน้ำดื่มขวด พกขวดส่วนตัวแทน
  • ไม่ซื้อเครื่องประดับหลายชิ้น
  • ใช้สกินแคร์ที่จำเป็นจากร้านราคาประหยัด
  • งดของแต่งบ้านที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น
  • ทำสมูทตี้เองแทนการซื้อน้ำผลไม้แพง ๆ
สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว
สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว

3. ออมเงิน 50-70% ของรายได้ พร้อมเริ่มลงทุน

แม้มีรายได้ปานกลาง แต่การลดรายจ่ายและอยู่ร่วมกับครอบครัวช่วยให้มีอัตราการออมที่สูงมาก เมื่อจับคู่กับการศึกษาการลงทุนผ่านช่องทางฟรีอย่าง YouTube ก็สามารถเข้าใจเรื่อง “การงอกเงยของเงิน” ได้อย่างมั่นใจ

“ออมวันนี้ = อิสระในวันหน้า”

หากเริ่มต้นเร็ว เงินที่สะสมและผลตอบแทนที่ได้จะทวีคูณอย่างน่าทึ่งเมื่อเวลาผ่านไป


กษียณตั้งแต่อายุน้อย ไม่ต้องรอให้รวยก่อน

หลายคนเข้าใจผิดว่าการเกษียณต้องเริ่มเมื่อมีเงินเยอะ แต่จริง ๆ แล้ว การมี “ระบบความคิดที่ดี” สำคัญกว่าเงินเดือนที่สูง เพราะหากมีเงินมากแต่ไม่มีวินัย ก็อาจเก็บไม่เหลือเลยในระยะยาว

การสร้างเป้าหมายเกษียณก่อนวัยจึงไม่ใช่แค่ความฝัน แต่เป็นสิ่งที่ทำได้จริง ผ่านหลักการง่าย ๆ อย่าง

  • ลดรายจ่ายเล็กน้อยแต่ต่อเนื่อง
  • ปรับพฤติกรรมการซื้อ
  • ตั้งเป้าหมายทางการเงินระยะยาว
  • เริ่มศึกษาการลงทุนแม้ยังไม่มีประสบการณ์

การเกษียณตั้งแต่อายุน้อยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ รายได้แค่ไหน หรือเพิ่งเริ่มต้นทำงาน หากคุณมีเป้าหมายและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ การเกษียณตั้งแต่อายุน้อย ก็จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

แม้เราจะยังไม่อยู่ในช่วงอายุที่เรียกว่าใกล้เกษียณ แต่การวางเป้าหมายให้กับชีวิตในอนาคตไม่ใช่เรื่องที่เร็วเกินไป การบริหารจัดการรายรับรายจ่ายให้สมดุล เริ่มต้นเก็บออมแม้เพียงเล็กน้อย และรู้จักจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ใช้เงิน ล้วนเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญต่อทุกวัย

คนจำนวนไม่น้อยมีรายได้ที่ดีแต่กลับไม่มีเงินเหลือเก็บ นั่นอาจไม่ใช่เพราะรายได้ไม่พอ แต่เพราะไม่มีระบบจัดการที่ดีพอ การรู้จักควบคุมการใช้จ่ายและปรับพฤติกรรมการเงินทีละนิด คือก้าวแรกที่สำคัญของการมีความมั่นคงในอนาคต

ทุกคนสามารถเริ่มต้นปรับตัวได้ตั้งแต่วันนี้ แม้จะไม่ได้มีเงินมาก หรือมีพื้นฐานความรู้ด้านการเงินที่ดีมาก่อน แค่เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ เช่น การจดรายรับ-รายจ่าย การตั้งงบประมาณประจำเดือน และค่อย ๆ เรียนรู้ไปพร้อมกับประสบการณ์ในชีวิต

เพราะการใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายและชัดเจนทางการเงิน ไม่เพียงแต่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย แต่ยังเปิดโอกาสให้เราเลือกชีวิตในแบบที่ต้องการได้ในอนาคตอีกด้วย

หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เราควบคุมเงินได้โดยไม่ต้องคิดมากทุกเดือน คือการตั้งระบบออมเงินอัตโนมัติ เช่น การหักบัญชีไปยังบัญชีเงินเก็บทันทีหลังเงินเดือนเข้า หรือการตั้งตัดเงินลงทุนแบบ DCA รายเดือน

นอกจากนี้ยังสามารถใช้แอปพลิเคชันช่วยบันทึกรายจ่าย แยกประเภทการใช้เงินออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าเงินเราหมดไปกับอะไรบ้าง และจะลดตรงไหนได้อีก เพื่อเป้าหมายระยะยาวที่ต้องการ

ชมคลิป

@miarosemcgrath

Can I retire by 40? #firemovement #investing #financialfreedom

♬ Storytelling – Adriel

“คุณไม่จำเป็นต้องรวยก่อน ถึงจะเริ่มต้นได้… แค่รู้จักใช้เงินอย่างมีเป้าหมาย ชีวิตก็จะพาไปไกลกว่าที่คุณคิด”

ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram miaxmcgrath, TikTok@miarosemcgrath

อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร