28/09/2025

Lifestyle

5 ประเภทคนที่ไม่ควรคบ ถ้าอยากสำเร็จเร็ว
5 ประเภทคนที่ไม่ควรคบ ถ้าอยากสำเร็จเร็ว

5 ประเภทคนที่ไม่ควรคบ ถ้าเราอยากสำเร็จเร็ว

คนที่ไม่ควรคบ ถ้าเราอยากสำเร็จเร็ว ไม่ได้หมายถึงการตัดขาดใครอย่างรุนแรง แต่หมายถึงการระวังพลังงานรอบตัวที่อาจฉุดรั้งเราโดยไม่รู้ตัว เพราะเส้นทางสู่ความสำเร็จ ไม่ได้วัดแค่จากความสามารถ แต่รวมถึง “คนที่อยู่รอบข้าง” ด้วย

1. คนที่ไม่เคยเชื่อในความฝันของเรา

ทุกครั้งที่คุณเล่าความฝัน คนประเภทนี้จะพูดว่า “มันยากไปไหม?” หรือ “คิดเยอะไปหรือเปล่า?” การอยู่กับคนแบบนี้นาน ๆ จะทำให้คุณสงสัยในตัวเอง และไม่กล้าเริ่มอะไรใหม่

2. คนที่มองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา

คนที่เอาแต่บ่น ชอบดึงเรื่องแย่ ๆ มาเล่า มักจะเป็นตัวถ่วงความสำเร็จ เพราะพลังงานลบสามารถแพร่กระจายได้ไว พอคุณเริ่มเห็นแต่ข้อเสีย คุณจะหมดไฟแบบไม่รู้ตัว

3. คนที่ไม่เคยลงมือทำ แต่ชอบวิจารณ์

คนกลุ่มนี้มักจะพูดมากกว่าทำ คอยบอกว่าสิ่งนั้นควรทำแบบนี้ สิ่งนี้ไม่น่าจะเวิร์ก ทั้งที่ไม่เคยลองจริง ๆ การฟังคำวิจารณ์จากคนที่ไม่เคยลงมือ อาจทำให้คุณเสียโฟกัส

4. คนที่แข่งขันโดยไม่มีพัฒนาการ

พวกเขาไม่ได้อยากเก่งขึ้น แต่อยากแค่เหนือกว่าคุณ คนแบบนี้จะไม่สนับสนุน แต่จะรู้สึกอิจฉา และพยายามลดคุณค่าความสำเร็จของคุณ

5. คนที่ไม่เคยยินดีกับความสำเร็จของใคร

เมื่อคุณประสบความสำเร็จ คนประเภทนี้มักจะพูดว่า “ก็แค่โชคดี” หรือ “ใคร ๆ ก็ทำได้” ถ้าคุณอยู่ใกล้เขานาน ๆ คุณจะเริ่มรู้สึกผิดที่ประสบความสำเร็จ

บทสรุป: คนที่ไม่ควรคบ ถ้าอยากสำเร็จเร็ว เราเลือกอยู่กับคนที่ช่วยผลัก ไม่ใช่ฉุด

คนที่ไม่ควรคบ ถ้าเราอยากสำเร็จเร็ว คือคนที่ขัดขวางการเติบโตของคุณแบบเงียบ ๆ ลองสังเกตให้ดีว่าใครทำให้คุณหมดไฟ ใครทำให้คุณลังเลที่จะลุย แล้วเลือกอยู่กับคนที่ “เชื่อในคุณ” อย่างแท้จริง

อ่านบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทัศนคติของคนสำเร็จที่คุณควรมี

ดูแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมที่ Success.com

อ่านต่อ: ดูดวง

อ่านบทความก่อนหน้า: ปิดดวงครึ่งปีหลัง 2568 รวยจากออนไลน์ ราศีไหนจะปังที่สุด

 

 

รวม 5 ไอเทมรับหน้าฝนที่ควรมีติดตัวและติดบ้าน! ตั้งแต่ร่มกันฝน เสื้อกันฝน เครื่องฟอกอากาศ ไปจนถึงเจลกันยุง พร้อมแนะนำรุ่นน่าใช้ ราคาไม่แรง ซื้อออนไลน์ได้เลย ตาม Dooarai มาดูกัน !

1. ร่มกันฝนดี ๆ สักคัน ใช้ทน ใช้จริง ไม่พังกลางทาง

อย่าคิดว่าร่มแค่ร่ม ซื้อถูก ๆ ตามตลาดก็พอ… พอถึงเวลาจริง ร่มพลิก ร่มพังกลางฝน จะรู้สึกเลยว่า “ไม่คุ้ม”

แนะนำร่มขนาดพกพาแบบ 2-3 ตอน มีโครงไฟเบอร์กันลมดี น้ำหนักเบา และเคลือบกัน UV ได้ด้วย จะยิ่งคุ้ม

แนะนำ ร่มคุณภาพดี กันลม กันฝน กันแดด

2. เสื้อกันฝนแบบพับเก็บได้ พกง่าย ไม่เปียกไม่โป๊ะ

ใครที่ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือเดินทางบ่อยในช่วงหน้าฝน เสื้อกันฝนเป็นของที่ควรมีเสมอ

เดี๋ยวนี้มีเสื้อกันฝนแบบพับเก็บได้ใส่ถุงเล็ก ๆ น้ำหนักเบา ไม่เปลืองที่ พกใส่กระเป๋าได้เลย

แนะนำ เสื้อกันฝน EVA แบบมีฮู้ด กันฝนได้จริงไม่ร้อน

3. เครื่องลดความชื้นในบ้าน – หน้าฝนย่อมมากับความเปียกชื้น

อากาศในหน้าฝนมีความชื้นสูง แถมบางวันยังมีกลิ่นอับ ฝุ่น หรือเชื้อราจากเฟอร์นิเจอร์ผ้า ๆ ทำให้ตัวเหนียว นอนไม่สบายอีกต่างหาก

การมีเครื่องลดความชื้นในบ้าน ช่วยปรับสภาพอากาศให้มีความชื้นที่พอดี เหมาะสมกับการอยู่บ้าน ลองใช้ดูแล้วจะอึ้งแน่นอน !

แนะนำ เครื่องลดความชื้นตัวนี้เลย

4. เจลกันยุง & สเปรย์กันยุง ป้องกันไข้เลือดออก

หน้าฝนเป็นฤดูโปรดของยุง! ยิ่งมีน้ำขัง ยิ่งระบาดเร็ว ยิ่งในบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง ต้องระวังเป็นพิเศษ

แนะนำ สเปรย์กันยุงออแกนิค

5. ผ้าเช็ดตัวแบบพกพา หรือผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์

ไม่ว่าฝนตกกระทันหัน หรือโดนละอองฝนจนเสื้อเปียกนิด ๆ ผ้าเช็ดตัวดี ๆ ช่วยให้เราแห้งไว ไม่เป็นหวัด

เลือกแบบไมโครไฟเบอร์ที่ซับน้ำเร็ว น้ำหนักเบา และแห้งเร็ว พกใส่กระเป๋าไว้เลย

แนะนำ ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ ซับน้ำไว

Dooarai อยากบอกว่า ! หน้าฝนถ้ามีของดีติดตัวไว้ จะสบายใจกว่ามาก

หลายคนมองข้ามของใช้เล็ก ๆ เหล่านี้ในหน้าฝน แต่เชื่อเถอะ… เวลาที่ฝนตกหนัก หรืออยู่ในสถานการณ์ที่เปียกไม่ทันตั้งตัว แค่มีไอเทมเหล่านี้ในกระเป๋า หรือในบ้าน ก็ช่วยให้ผ่านวันแย่ ๆ ไปได้แบบไม่เปียก ไม่ป่วย ไม่หงุดหงิด สบายใจไปอีกวัน

ติดตามบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร (https://www.dooarai.com/)

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

แม้จะผ่านมา 3-4 ปีแล้ว แต่ “WFH” หรือการทำงานจากบ้านก็ยังเป็นสไตล์ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ไม่หายไปไหน ยิ่งบริษัทเริ่มยืดหยุ่นมากขึ้น หลายคนก็เริ่มลงทุน “แต่งออฟฟิศในบ้าน” ให้ทำงานได้แบบจริงจัง ไม่ใช่แค่นั่งบนโซฟากอดหมาทำงานอีกต่อไป

แล้วจะมีอะไรบ้างล่ะ ที่ช่วยให้ชีวิต WFH สะดวกขึ้น ไม่ต้องปวดหลัง ปวดตา หรือรู้สึกเหมือนโดนขัง วันนี้ Dooarai ขอจัดเต็ม 7 Gadget ตัวเด็ด ที่จะเปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็น “ที่ทำงานในฝัน” ได้เลย!

1. โต๊ะทำงานแบบลุก-นั่งได้ (Adjustable Standing Desk)

ใครที่ต้องนั่งประชุมยาว ๆ 4-5 ชั่วโมงต่อวันควรมีไว้เลย โต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ จะช่วยให้คุณสลับระหว่างการ “นั่งทำงาน” กับ “ยืนพิมพ์งาน” ได้แบบไม่ปวดหลัง ไม่บล็อกกระดูกคอ แถมยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้นอีกด้วย

โต๊ะทำงานราคาดี คุณภาพสูง กดเลย

2. เก้าอี้ทำงานที่ซัพพอร์ตหลังจริงจัง

อย่าประหยัดกับเก้าอี้! เพราะการนั่งทำงาน 6-8 ชั่วโมงบนเก้าอี้แข็ง ๆ นอกจากจะปวดหลังแล้ว ยังอาจพาให้เรากลายเป็นผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมแบบไม่รู้ตัว เก้าอี้ทำงานที่ดีควรปรับพนักพิงได้ รองรับกระดูกสันหลัง และมีที่รองแขนที่ไม่ทำให้ไหล่ล้า

เก้าอี้ซัพพอร์ตที่เราแนะนำ กดเลย

3. หูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling Headphones)

อยู่บ้านไม่ได้แปลว่าเงียบเสมอไป เสียงรถ เสียงคนขายของ หรือแม้แต่แมวที่วิ่งชนโต๊ะก็สามารถทำให้เราหลุดสมาธิได้ หูฟังตัดเสียงรบกวนจึงเป็นของที่คน WFH ต้องมี โดยเฉพาะเวลาประชุมออนไลน์ที่ไม่อยากให้เสียงรบกวนเข้าไมค์

หูฟังที่ชาว WFH ต้องมี แบบครอบหูไร้สายเก๋ ๆ กดเลย

หูฟังแบบเล็กกระทัดรัด แต่คุณภาพสูง กดเลย

4. กล้องเว็บแคม Full HD พร้อมไมโครโฟ

แม้โน้ตบุ๊กจะมีกล้องอยู่แล้ว แต่คุณภาพมักจะแค่พอใช้เท่านั้น ถ้าอยากให้ภาพชัดแจ๋ว หน้าไม่เบลอ แถมเสียงคมชัด กล้องเว็บแคมแยกคุณภาพสูงคือคำตอบ! จะประชุม หรือจะ Live สด ก็เอาอยู่

กล้องชัด มีตติ้งไม่สดุด กดเลย

5. โคมไฟตั้งโต๊ะปรับแสงได้

แสงที่ดีช่วยลดความล้าในตาได้มาก โดยเฉพาะตอนพิมพ์งานหรือจ้องหน้าจอนาน ๆ โคมไฟ LED ที่สามารถปรับแสงและอุณหภูมิสีได้ จะช่วยให้ดวงตาคุณรู้สึกสบาย ไม่แสบ ไม่เครียดตอนค่ำ

โคมไฟแสงนวล กดเลย 

6. แท่นวางโน้ตบุ๊ก (Laptop Stand) + คีย์บอร์ดไร้สาย

ไม่อยากหลังค่อมคอเอียง แนะนำให้ยกระดับโน้ตบุ๊กขึ้น แล้วใช้คีย์บอร์ดและเมาส์แยก จะช่วยให้ท่าทางดีขึ้น แถมดูโปรขึ้นอีกต่างหาก

แท่นวางโน้ตบุ๊กสุดจำเป็น กดเลย

คีย์บอร์ด + เมาส์ไร้สาย มือโปรต้องมี กดเลย

7. เครื่องฟอกอากาศจิ๋วแต่แจ๋ว

อย่าคิดว่าอยู่ในบ้านแล้วจะปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 หรือเชื้อโรคในอากาศ เครื่องฟอกอากาศขนาดพอเหมาะช่วยให้ห้องทำงานของคุณสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลดภูมิแพ้ ป้องกันกลิ่นอับ ทำให้ทำงานได้สบายทั้งวัน

ของสำคัญอย่างเครื่องฟอกอากาศ เราคัดมาแล้ว กดเลย !

ดูอะไรสรุปให้ ! ลงทุน Gadget เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การ WFH อาจดูสะดวก แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์ดี ๆ ก็อาจกลายเป็นต้นเหตุของความเครียด และสุขภาพพังในระยะยาวได้ Gadget เหล่านี้อาจมีราคาสูงบ้างในบางชิ้น แต่รับรองว่า “คุ้ม” กับสุขภาพกายและใจของคุณแน่นอน

ติดตามบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

Facebook : https://www.facebook.com/dooarai.official

อยู่บ้านก็แทบละลาย จะหนีร้อนก็ไม่มีที่ไป… แล้วจะแต่งบ้านหน้าร้อนยังไงให้เย็นกายเย็นใจ แถมยังสวยถูกจริตเรา?

ถึงเวลาเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นมุมพักใจสุดคลู ด้วยวิธีแต่งบ้านหน้าร้อนที่ทั้งประหยัดและดูดีแบบไม่ต้องง้อดีไซเนอร์ ส่วนจะมีไอเทมไหนน่าโดนบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย

เริ่มที่พื้นฐาน “สี” และ “แสง” ก่อน!

  • เลือกโทนสีเย็น เช่น ฟ้าอ่อน เขียวมิ้นต์ หรือสีขาวไข่
  • เปลี่ยนผ้าม่าน ผ้าปู พรม ให้ดูเบาสบาย
  • ใช้หลอดไฟ LED สี Daylight ลดความร้อนในห้อง

ของแต่งบ้านหน้าร้อนที่ต้องมี!

1. ม่านกันแดดแบบ UV Block

ช่วยกันรังสียูวี ลดอุณหภูมิภายในบ้านได้จริง

ดูม่านกันร้อนคุณภาพดี คลิกที่นี่

2. พัดลมไอเย็น / พัดลมตั้งโต๊ะ

ประหยัดไฟกว่าแอร์ แถมลมเย็นแบบไม่แห้ง

เช็กพัดลมไอเย็นรุ่นขายดีที่นี่

3. น้ำหอมในบ้านกลิ่นเย็นๆ

เช่น ยูคาลิปตัส หรือซีตรัส ช่วยให้บ้านรู้สึกสดชื่น

เลือกกลิ่นหอมหน้าร้อนยอดฮิต คลิกเลย

เพิ่มมุมต้นไม้ = เพิ่มความเย็นแบบธรรมชาติ

ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้จริงหรือต้นไม้ปลอม แค่มี “สีเขียว” บ้านก็ดูสบายตาและลดความเครียดได้ทันที

  • ลิ้นมังกร – ฟอกอากาศดีมาก
  • ยางอินเดีย – โทนเขียวเข้มสวย
  • ไทรใบสัก – สายมินิมอลต้องมี

เลือกต้นไม้แต่งบ้านหน้าร้อนคลิกเลย

DIY ง่ายๆ ไม่เปลืองงบ

  • เปลี่ยนปลอกหมอนเป็นผ้าลินิน
  • วางกระจกสะท้อนแสงให้ห้องดูโปร่ง
  • ติดวอลเปเปอร์ลาย Tropical เพิ่มความสดชื่น

ดูอะไรสรุปให้ ! แต่งบ้านหน้าร้อน = แต่งใจให้เย็น

ไม่ว่าจะเลือกเริ่มจากจุดเล็ก ๆ หรือเปลี่ยนมุมทั้งบ้าน สิ่งสำคัญคือการทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นในช่วงหน้าร้อนนี้ — เพราะบ้านที่เย็นสบาย คือที่ที่ใจเราอยากกลับมา

อย่ารอช้า! ลองแต่งบ้านหน้าร้อนในแบบที่ใช่ แล้วแชร์ไอเดียให้เพื่อน ๆ กันได้เลย

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ Dooarai

ใครที่มีแมวเป็นลูกต้องอ่าน! เรื่อง “ทรายแมว” นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยนะ เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงความสะดวกของน้องเหมียวแล้ว เจ้าของอย่างเราก็ต้องคิดถึงเรื่องกลิ่น ความสะอาด และกระเป๋าตังค์ด้วย วันนี้ Dooarai จะพาไปเจาะลึกแบบไม่มีอวย ว่าระหว่าง ทรายแมวเต้าหู้ กับ ทรายแมวเบนโทไนต์ อันไหนดีกว่า? เหมาะกับใคร? แล้วคุณควรเลือกอะไรให้เจ้านายที่บ้านกันแน่?

ทรายแมวเต้าหู้: ทางเลือกสายออร์แกนิกที่กำลังมาแรง

ทรายแมวเต้าหู้ ทำมาจากกากถั่วเหลืองหรือเส้นใยพืชต่าง ๆ มีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก เบา สีขาวนวล ๆ คล้ายข้าวโพดป่น บางคนก็เรียก “ทรายแมวออร์แกนิก” เพราะมันเป็นมิตรต่อโลกและต่อแมวสุด ๆ

ข้อดีของทรายแมวเต้าหู้

  • ย่อยสลายง่าย เทลงชักโครกได้เลย ไม่ต้องแยกขยะให้วุ่นวาย
  • ปลอดภัยกับแมวเลีย เพราะทำจากวัสดุธรรมชาติ ถ้าน้องเผลอเลียเข้าปากก็ไม่เป็นอันตราย
  • น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ไม่ปวดหลังเวลาเปลี่ยนถุง
  • กลบกลิ่นได้ดีพอสมควร ถ้ามีการดูแลเปลี่ยนทรายบ่อย ๆ

ข้อเสียที่ต้องรู้

  • จับตัวเป็นก้อนนิ่มกว่าเบนโทไนต์ ถ้าใช้ไม่ระวัง อาจแตกเละตอนตัก
  • ราคาแพงกว่านิดหน่อย โดยเฉพาะแบรนด์นำเข้า
  • ดูดความชื้นไวเกินไปในบางครั้ง ถ้าอากาศชื้น อาจละลายหรือจับตัวไม่ดี

ทรายแมวเบนโทไนต์: เจ้าตลาดสายเก๋า ราคาน่าคบ

ทรายแมวเบนโทไนต์ เป็นทรายแมวที่ทำจากแร่ธรรมชาติที่ชื่อว่าเบนโทไนต์ มีคุณสมบัติพิเศษในการดูดซับน้ำและจับตัวเป็นก้อนแข็ง นิยมใช้มานานมากในหมู่ทาสแมวมืออาชีพ

ข้อดีของทรายเบนโทไนต์

  • จับตัวเป็นก้อนแข็งแน่น ตักง่าย ไม่แตกเละ
  • ควบคุมกลิ่นดีเยี่ยม โดยเฉพาะรุ่นที่ผสมคาร์บอนหรือกลิ่นหอม
  • ราคาถูกกว่าเต้าหู้ ในปริมาณที่เท่ากัน
  • หาซื้อง่าย มีทุกห้าง ทุกร้านออนไลน์

ข้อเสียที่ต้องคิด

  • ฝุ่นเยอะ (บางรุ่น) อาจทำให้แมวหรือคนจามได้
  • น้ำหนักมาก ขนย้ายลำบาก ถ้าอยู่คอนโดนี่เหนื่อยเลย
  • ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทิ้งแล้วต้องแยกขยะ ไม่ควรเทลงชักโครก
  • อาจติดเท้าแมว ถ้าแมวชอบเล่นทราย อาจพาออกไปทั่วบ้าน

Dooarai สรุปให้ ถ้ามีงบและแมวแค่ 1 ตัว เลือก “เต้าหู้” ถ้ามีหลายตัวหรืออยากประหยัด เลือก “เบนโทไนต์”

ไม่มีทรายแมวแบบไหนดีที่สุดในโลก มีแต่แบบที่ เหมาะกับแมวของเราและชีวิตเรา มากที่สุด

บางบ้านอาจเลือกใช้สองแบบสลับกันเลยก็มี เช่น ใช้เบนโทไนต์ตอนอยู่บ้าน ใช้เต้าหู้ตอนเดินทางหรือวันหยุด เพราะเทง่าย สะดวก ไม่ต้องพกที่ตักเยอะ ๆ

คำแนะนำทาสแมวจาก Dooarai

  • อย่าลืมทดลองทีละน้อยก่อนซื้อเยอะ บางแมวเขาเลือกเองเลยนะว่าชอบแบบไหน
  • ลองเปลี่ยนทีละนิด อย่าเปลี่ยนกะทันหัน เดี๋ยวแมวงง ไม่เข้าห้องน้ำ
  • อย่าลืมตักอึทุกวัน ไม่ว่าจะใช้ทรายแบบไหนก็ตาม
  • อย่าหลงแบรนด์ดังอย่างเดียว อ่านรีวิวจากคนเลี้ยงจริงด้วย

ใครกำลังมองหาทรายแมวที่เหมาะกับบ้านตัวเอง ลองดูโปรเด็ด ๆ ที่เราคัดมาให้ตรงนี้เลย !

ทรายเต้าหู้ตัวเด็ด ใช้ดี ราคาน่ารัก << กดเลย

ทราย Bentonite ถูกและดีราคาน่ารัก << กดเลย

ติดตามบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ดูอะไร 

กลายเป็นคำถามที่ชาวเน็ตต่างจับตามองอีกครั้ง สำหรับความสัมพันธ์ของ 2 นักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง “กระทิง ขุนณรงค์” และ “กระปุก พลอยนิรา” 

กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว
กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว

หลังจากเพจดังในโลกออนไลน์ได้หย่อนคำใบ้ที่ดูเหมือนจะโยงไปยังคู่รักนักแสดงที่เคยหวานกันมานานหลายปี แต่ตอนนี้อาจถึงจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ และเลิกกันแล้วหรือไม่?

ข่าวลือเริ่มต้นอย่างไร ?

ช่วงต้นปีที่ผ่านมา วงการบันเทิงไทยเจอกระแสข่าวเลิกราของคู่รักคนดังหลายคู่ ซึ่งล้วนทำให้แฟนคลับต้องใจหาย และล่าสุดได้มีการจุดกระแสใหม่จากเพจชื่อดังอย่าง เจ๊มอย108 V1 ที่ออกมาโพสต์ข้อความว่า “การอวดแฟน คลั่งรักในวันนั้น น่าจะจบกันละมั้งในวันนี้ เพราะเขาอันฟอลกันแล้วจ้า ต่อไปผัวน่าจะตอบแล้วล่ะว่า..โสดครับ!!” ข้อความนี้แม้จะไม่มีการระบุชื่อ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้หลายคนเริ่มสืบเสาะว่ากำลังพูดถึงใครกันแน่

กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว
กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว

ชาวเน็ตโยงไปที่คู่รัก “กระทิง-กระปุก” เลิกกันแล้ว

ไม่นานหลังจากโพสต์ดังกล่าว เพจอีกแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า อีป้าข้างบ้าน ได้เสริมประเด็นโดยระบุว่า “จริงๆ คู่นี้มีข่าวเลิกกันตั้งแต่ต้นปีละ แต่ผู้ชายขอไม่ตอบเรื่องนี้ เพราะตอนนั้นเป็นช่วงวัดใจ เผื่อปรับความเข้าใจแล้วจะดี แต่สุดท้าย…ผู้หญิงอันฟอลแล้ว แปลว่าเลิกกันขาดแล้วสินะ”

เมื่อข้อมูลนี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจึงเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าอาจหมายถึงคู่ของ “กระทิง ขุนณรงค์” และ “กระปุก พลอยนิรา” นักแสดงที่คบหาดูใจกันมานานกว่า 8 ปี

เมื่อตรวจสอบอินสตาแกรมของทั้งคู่ พบว่าฝ่ายชายยังคงติดตามฝ่ายหญิงอยู่ แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่ได้ติดตามฝ่ายชายแล้ว ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ทำให้กระแสข่าวลือเรื่องการเลิกราทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น


“กระทิง-กระปุก” กับเส้นทางรักกว่า 8 ปี ที่เคยมั่นคง

กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว
กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ความรักของ “กระทิง ขุนณรงค์” และ “กระปุก พลอยนิรา” ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่แฟน ๆ ต่างชื่นชม เนื่องจากทั้งคู่ผ่านเหตุการณ์มากมายมาด้วยกัน ทั้งเรื่องส่วนตัวและเหตุการณ์สาธารณะ เช่น กรณีที่กระทิงต้องเข้าให้ปากคำในคดี Forex-3D กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยมีแฟนสาวยืนเคียงข้างเสมอ

ในบทสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง กระปุกเคยกล่าวไว้ว่า เธอโชคดีที่ได้แฟนหล่อ ตี๋ สูง ผิวดี แถมนิสัยดีอีกด้วย และเธอก็เชื่อว่าตัวเองคือวาสนาของเขาเช่นกัน ซึ่งคำพูดนี้กลายเป็นที่จดจำของแฟนคลับหลายคน


ปฏิกิริยาของ “กระทิง-กระปุก” หลังข่าวลือ

แม้จะมีข่าวลือออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งกระทิงและกระปุกยังไม่ได้ออกมาพูดชัดเจนถึงสถานะความสัมพันธ์ในปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ เมื่อถูกสื่อถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ กระทิงเพียงกล่าวสั้น ๆ ว่า “จะให้ตอบอย่างไรดี ยังไม่พูดดีกว่าครับ เรื่องส่วนตัวผมไม่ค่อยพูดเท่าไหร่” คำตอบนี้ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยยุติข่าวลือ แต่กลับทำให้ผู้คนยิ่งสงสัยและรอการยืนยันจากปากของทั้งสองฝ่ายมากยิ่งขึ้น

กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว
กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว

แม้ทุกสัญญาณจะชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าทั้งคู่เลิกกันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการจากเจ้าตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเรื่องราวนี้จบลงอย่างไร

กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว
กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว

แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ ข่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของสังคมต่อชีวิตรักของคนดัง และในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้ความรักจะดูมั่นคงเพียงใด ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา

กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว
กระทิง กระปุก เลิกกันแล้ว

อย่างไรก็ตามเรื่องราวของ “กระทิง ขุนณรงค์” และ “กระปุก พลอยนิรา” ยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ว่าเลิกรากันจริงหรือไม่ แต่ชาวเน็ตต่างก็พากันจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะการอันฟอลโลว์กันในโลกออนไลน์อาจสื่อถึงความเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ หรืออาจเป็นเพียงเรื่องส่วนตัวที่ยังไม่ต้องการเปิดเผยก็เป็นได้

ขอบคุณข้อมูลจาก เจ๊มอย108 V1

อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

คุณเชื่อไหมว่าแค่มีรายได้ปานกลางก็สามารถวางแผนเกษียณก่อนวัยได้จริง.. เรื่องราวต่อไปนี้อาจเปลี่ยนมุมมองของคุณไปตลอดกาล

สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว
สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว

การเกษียณตั้งแต่อายุน้อยไม่ได้จำกัดอยู่ที่ผู้มีรายได้สูงหรือเจ้าของธุรกิจเท่านั้น คนทำงานประจำทั่วไปก็สามารถเริ่มต้นได้ หากมีหลักคิดที่ถูกต้องและลงมือทำอย่างมีวินัย

หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคือหญิงสาวชาวอังกฤษวัย 23 ปี ซึ่งสามารถเก็บเงินหลักล้านได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และเกษียณเมื่ออายุ 40 ปี เธอไม่ได้ถูกรางวัลใหญ่ ไม่ได้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ใช้ “การวางแผนทางการเงิน” และ “การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย” เป็นเครื่องมือในการสร้างอนาคตที่มั่นคง

ทำไมการวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุน้อยถึงสำคัญ?

การเริ่มต้นเร็วย่อมได้เปรียบเสมอ โดยเฉพาะกับการออมและลงทุน เพราะ ดอกเบี้ยทบต้น คือพลังมหัศจรรย์ที่สร้างความมั่งคั่งได้หากเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้

แม้ว่าการเกษียณจะฟังดูไกลตัว แต่หากคุณเริ่มเร็ว คุณจะมีโอกาสใช้ชีวิตอย่างอิสระโดยไม่ต้องผูกติดกับการทำงานไปตลอดชีวิต


3 แนวทางวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุน้อยที่ใครก็ทำตามได้

1. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น – สร้างวินัยทางการเงิน

การบริหารเงินอย่างมีสติคือจุดเริ่มต้นของอิสรภาพทางการเงิน เช่น เลือกเดินทางด้วยวิธีประหยัด ทำอาหารทานเอง ใช้ของมือสอง หรือหลีกเลี่ยงการผ่อนสินค้าฟุ่มเฟือยผ่านบัตรเครดิต

สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว
สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว

“การควบคุมพฤติกรรมการใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุกวัน จะสะสมกลายเป็นผลลัพธ์มหาศาลในอนาคต”

2. หลีกเลี่ยง 5 สิ่งที่ดูเหมือนเล็กน้อยแต่กินเงินมหาศาล

การลดค่าใช้จ่ายที่ดูเล็กน้อย แต่เกิดซ้ำบ่อย ๆ เป็นทางลัดที่ดีในการเพิ่มเงินเก็บ เช่น:

  • เลิกซื้อน้ำดื่มขวด พกขวดส่วนตัวแทน
  • ไม่ซื้อเครื่องประดับหลายชิ้น
  • ใช้สกินแคร์ที่จำเป็นจากร้านราคาประหยัด
  • งดของแต่งบ้านที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น
  • ทำสมูทตี้เองแทนการซื้อน้ำผลไม้แพง ๆ
สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว
สาววัย 23 วางแผนเกษียณแล้ว

3. ออมเงิน 50-70% ของรายได้ พร้อมเริ่มลงทุน

แม้มีรายได้ปานกลาง แต่การลดรายจ่ายและอยู่ร่วมกับครอบครัวช่วยให้มีอัตราการออมที่สูงมาก เมื่อจับคู่กับการศึกษาการลงทุนผ่านช่องทางฟรีอย่าง YouTube ก็สามารถเข้าใจเรื่อง “การงอกเงยของเงิน” ได้อย่างมั่นใจ

“ออมวันนี้ = อิสระในวันหน้า”

หากเริ่มต้นเร็ว เงินที่สะสมและผลตอบแทนที่ได้จะทวีคูณอย่างน่าทึ่งเมื่อเวลาผ่านไป


กษียณตั้งแต่อายุน้อย ไม่ต้องรอให้รวยก่อน

หลายคนเข้าใจผิดว่าการเกษียณต้องเริ่มเมื่อมีเงินเยอะ แต่จริง ๆ แล้ว การมี “ระบบความคิดที่ดี” สำคัญกว่าเงินเดือนที่สูง เพราะหากมีเงินมากแต่ไม่มีวินัย ก็อาจเก็บไม่เหลือเลยในระยะยาว

การสร้างเป้าหมายเกษียณก่อนวัยจึงไม่ใช่แค่ความฝัน แต่เป็นสิ่งที่ทำได้จริง ผ่านหลักการง่าย ๆ อย่าง

  • ลดรายจ่ายเล็กน้อยแต่ต่อเนื่อง
  • ปรับพฤติกรรมการซื้อ
  • ตั้งเป้าหมายทางการเงินระยะยาว
  • เริ่มศึกษาการลงทุนแม้ยังไม่มีประสบการณ์

การเกษียณตั้งแต่อายุน้อยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ รายได้แค่ไหน หรือเพิ่งเริ่มต้นทำงาน หากคุณมีเป้าหมายและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ การเกษียณตั้งแต่อายุน้อย ก็จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

แม้เราจะยังไม่อยู่ในช่วงอายุที่เรียกว่าใกล้เกษียณ แต่การวางเป้าหมายให้กับชีวิตในอนาคตไม่ใช่เรื่องที่เร็วเกินไป การบริหารจัดการรายรับรายจ่ายให้สมดุล เริ่มต้นเก็บออมแม้เพียงเล็กน้อย และรู้จักจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ใช้เงิน ล้วนเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญต่อทุกวัย

คนจำนวนไม่น้อยมีรายได้ที่ดีแต่กลับไม่มีเงินเหลือเก็บ นั่นอาจไม่ใช่เพราะรายได้ไม่พอ แต่เพราะไม่มีระบบจัดการที่ดีพอ การรู้จักควบคุมการใช้จ่ายและปรับพฤติกรรมการเงินทีละนิด คือก้าวแรกที่สำคัญของการมีความมั่นคงในอนาคต

ทุกคนสามารถเริ่มต้นปรับตัวได้ตั้งแต่วันนี้ แม้จะไม่ได้มีเงินมาก หรือมีพื้นฐานความรู้ด้านการเงินที่ดีมาก่อน แค่เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ เช่น การจดรายรับ-รายจ่าย การตั้งงบประมาณประจำเดือน และค่อย ๆ เรียนรู้ไปพร้อมกับประสบการณ์ในชีวิต

เพราะการใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายและชัดเจนทางการเงิน ไม่เพียงแต่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย แต่ยังเปิดโอกาสให้เราเลือกชีวิตในแบบที่ต้องการได้ในอนาคตอีกด้วย

หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เราควบคุมเงินได้โดยไม่ต้องคิดมากทุกเดือน คือการตั้งระบบออมเงินอัตโนมัติ เช่น การหักบัญชีไปยังบัญชีเงินเก็บทันทีหลังเงินเดือนเข้า หรือการตั้งตัดเงินลงทุนแบบ DCA รายเดือน

นอกจากนี้ยังสามารถใช้แอปพลิเคชันช่วยบันทึกรายจ่าย แยกประเภทการใช้เงินออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าเงินเราหมดไปกับอะไรบ้าง และจะลดตรงไหนได้อีก เพื่อเป้าหมายระยะยาวที่ต้องการ

ชมคลิป

@miarosemcgrath

Can I retire by 40? #firemovement #investing #financialfreedom

♬ Storytelling – Adriel

“คุณไม่จำเป็นต้องรวยก่อน ถึงจะเริ่มต้นได้… แค่รู้จักใช้เงินอย่างมีเป้าหมาย ชีวิตก็จะพาไปไกลกว่าที่คุณคิด”

ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram miaxmcgrath, TikTok@miarosemcgrath

อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

หลังจากเงียบมาตลอดเกี่ยวกับกระแสข่าวความสัมพันธ์กับนักร้องหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน”

"โตโน่" เคลื่อนไหวหลัง "ณิชา" ประกาศหน้าสื่อ
“โตโน่” เคลื่อนไหวหลัง “ณิชา” ประกาศหน้าสื่อ

ล่าสุดนางเอกสาวมากฝีมือ “ณิชา ณัฏฐณิชา” ก็ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ถึงความสัมพันธ​์กับหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน” ท่ามกลางความสนใจของแฟน ๆ และผู้ติดตามข่าวบันเทิงที่เฝ้าจับตาดูว่าเรื่องราวระหว่างทั้งสองจะจบลงเช่นไร โดยหลายคนยังคงส่งกำลังใจอย่างล้นหลามให้กับนักแสดงสาว พร้อมชื่นชมในท่าทีที่นิ่ง สงบ และดูเข้มแข็งกว่าที่เคยเห็น

"โตโน่" เคลื่อนไหวหลัง "ณิชา" ประกาศหน้าสื่อ
“โตโน่” เคลื่อนไหวหลัง “ณิชา” ประกาศหน้าสื่อ

สาวณิชาเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาเธอทุ่มเทให้กับงานค่อนข้างมาก จึงไม่ค่อยได้ตามดูข่าวหรือคอมเมนต์ต่าง ๆ ที่ถูกส่งเข้ามา แต่ก็รู้สึกขอบคุณทุกคนที่ยังคงส่งพลังงานดี ๆ ให้เสมอ พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หนูใช้ชีวิตปกติค่ะ” เธอบอกว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างยังเป็นไปตามวิถีชีวิตปกติของเธอ และเมื่อถูกถามถึงความรู้สึกหลังกลับจากทริปทะเลที่พังงา ณิชาก็กล่าวอย่างมั่นใจว่า เธอสบายดี และยังคงเป็นตัวของตัวเองเหมือนเดิม

"โตโน่" เคลื่อนไหวหลัง "ณิชา" ประกาศหน้าสื่อ
“โตโน่” เคลื่อนไหวหลัง “ณิชา” ประกาศหน้าสื่อ

สำหรับเหตุผลที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่าเธอดูเข้มแข็งขึ้นนั้น ณิชาเล่าอย่างเป็นกันเองว่า เป็นเพราะเธอมีคนรอบตัวที่ดีเสมอ ทั้งเพื่อน ครอบครัว และทีมงานที่คอยซัพพอร์ตอยู่ตลอด ไม่ว่าจะต้องผ่านเรื่องใด ทุกคนล้วนให้กำลังใจอย่างเต็มที่ เธอจึงรู้สึกโชคดีมากที่มีคนแบบนี้อยู่รอบข้าง นอกจากนี้ เธอยังพูดถึงปาร์ตี้วันเกิดที่เพิ่งผ่านไปว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตที่จัดงานแบบนี้ เพราะอยากฉลองช่วงท้ายของเลข 2 ก่อนจะเข้าสู่เลข 3 ซึ่งบรรยากาศในวันนั้นก็เต็มไปด้วยความสนุกและความสุข

"โตโน่" เคลื่อนไหวหลัง "ณิชา" ประกาศหน้าสื่อ
“โตโน่” เคลื่อนไหวหลัง “ณิชา” ประกาศหน้าสื่อ

แม้จะถูกถามถึงประเด็นความรักกับโตโน่ แต่ณิชากลับเลือกตอบด้วยความสุภาพและชัดเจนว่า “หนูไม่พูดได้มั้ยคะ ขอบคุณนะคะ” และเมื่อนักข่าวถามย้ำว่า ขอก้าวข้ามเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไหม เธอก็ตอบว่า “ใช่ค่ะ” พร้อมกล่าวเสริมว่า “ตอนนี้อยู่กับปัจจุบันนะคะ” ท่ามกลางความสนใจของสื่อและผู้ร่วมงาน

"โตโน่" เคลื่อนไหวหลัง "ณิชา" ประกาศหน้าสื่อ
“โตโน่” เคลื่อนไหวหลัง “ณิชา” ประกาศหน้าสื่อ

เมื่อมีคำถามต่อว่า ตอนนี้ทั้งสวย ทั้งสนุก และดูเอนจอยกับชีวิตมาก ณิชาก็ยิ้มพร้อมตอบว่า “ก็เป็นอย่างนั้นมาตลอดค่ะ” ก่อนจะเผยถึงความสุขในชีวิตว่า ยังคงมีความสุขกับการทำงาน การได้ใช้ชีวิตในแบบที่เธอเลือก ได้ทานของอร่อย ได้เที่ยวกับเพื่อน ๆ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้คือความสุขที่เพียงพอแล้วสำหรับเธอในช่วงเวลานี้

"โตโน่" เคลื่อนไหวหลัง "ณิชา" ประกาศหน้าสื่อ
“โตโน่” เคลื่อนไหวหลัง “ณิชา” ประกาศหน้าสื่อ

และเมื่อถูกถามถึงสถานะหัวใจว่าตอนนี้ใช้คำว่า “โสด” ได้หรือยัง นักแสดงสาวก็ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “แฮปปี้ดีค่ะ” ก่อนจะย้ำอย่างชัดเจนว่า “อยู่คนเดียวค่ะ” พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง พร้อมทิ้งท้ายว่า “ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง อยากให้ทุกคนมีความสุขกันค่ะ” และไม่ลืมที่จะชวนให้แฟน ๆ ไปชมภาพยนตร์เรื่อง Thunderbolts ที่เธอร่วมงานเปิดตัวในวันเดียวกัน

"โตโน่" เคลื่อนไหวหลัง "ณิชา" ประกาศหน้าสื่อ
“โตโน่” เคลื่อนไหวหลัง “ณิชา” ประกาศหน้าสื่อ

ด้านโตโน่ ภาคิน ซึ่งมีคนติดตามความเคลื่อนไหวไม่แพ้กัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 เจ้าตัวได้โพสต์ภาพลงในไอจีสตอรี่ ขณะอุ้มหลานระหว่างทริปที่เซี่ยงไฮ้ โดยไม่มีข้อความกำกับ มีเพียงการเช็กอินสถานที่เท่านั้น

"โตโน่" เคลื่อนไหวหลัง "ณิชา" ประกาศหน้าสื่อ
“โตโน่” เคลื่อนไหวหลัง “ณิชา” ประกาศหน้าสื่อ

และยังมีภาพจาก ต้องตา น้องสาวของโตโน่ ที่ลงรูปจากทริปดังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งมีแฟน ๆ เข้าไปแสดงความเห็นกันอย่างคึกคัก หลายคนยังคงส่งกำลังใจให้ทั้งคู่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม

"โตโน่ ภาคิน" เคลื่อนไหวหลัง "ณิชา" ประกาศหน้าสื่อ
“โตโน่ ภาคิน” เคลื่อนไหวหลัง “ณิชา” ประกาศหน้าสื่อ

แม้จะเป็นช่วงที่หลายคนจับตามองถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตรักของเธอ แต่นิชาก็เลือกที่จะเดินหน้าอย่างมั่นคง ด้วยรอยยิ้ม และหัวใจที่เข้มแข็ง สมกับเป็นอีกหนึ่งนักแสดงหญิงที่ได้รับความรักจากแฟน ๆ ทั่วประเทศ

ย้อนฟังสัมภาษณ์สาวณิชา

ขอบคุณข้อมูลจาก Instagram mootono29, Instagram nychaa, Thairath News – ข่าวไทยรัฐ

อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร

ไม่ใช่แค่นางเอกสาวที่คนไทยรู้จักในจอทีวี แต่เธอคือ 1 ในคนบันเทิงไทยที่สามารถก้าวสู่เวทีระดับโลกอย่างสง่างาม สำหรับ ปู ไปรยา” โดยเฉพาะการไปเยือนเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival) หลายครั้งในฐานะตัวแทนจากเอเชีย อย่างไรก็ตามเบื้องหลังของความหรูหราและภาพลักษณ์ระดับอินเตอร์ที่เราเห็นกันอาจจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนคิด

ปู ไปรยา เผยเบื้องหลังเส้นทางสู่พรมแดงคานส์
ปู ไปรยา เผยเบื้องหลังเส้นทางสู่พรมแดงคานส์

เมื่อก่อนกลับไปหลายปีก่อนหน้านี้ สาวปู ไปรยา เคยเปิดใจผ่านรายการ “ตีท้ายครัว” ถึงความพยายามในวันที่ยังไม่มีสปอนเซอร์ ไม่มีแบรนด์แฟชั่นไหนสนับสนุน และเธอต้อง “ดิ้นรนเองทุกอย่าง” เพื่อให้ได้ไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นให้ได้

ปู ไปรยา เผยเบื้องหลังเส้นทางสู่พรมแดงคานส์
ปู ไปรยา เผยเบื้องหลังเส้นทางสู่พรมแดงคานส์

“อย่างไปคานส์ ตอนยังไม่มีสปอนเซอร์ ต้องดิ้นรนเอง ต้องซื้อชุด ซื้อทุกอย่าง ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าช่างแต่งหน้า ทริปหนึ่งอาทิตย์หมดไปเป็นล้าน เพื่อไปเดินพรมแดง ถ้าเราต้องการสร้างกระแสในเมืองไทย เราไม่ลงทุนจะมีกระแสได้อย่างไร ปูทำจนเป็นปูถึงทุกวันนี้” ปู ไปรยา กล่าว

ปู ไปรยา เผยเบื้องหลังเส้นทางสู่พรมแดงคานส์
ปู ไปรยา เผยเบื้องหลังเส้นทางสู่พรมแดงคานส์

ไม่เพียงแค่ค่าตั๋วเครื่องบินหรือค่าที่พัก แต่ค่าชุดราตรีแต่ละชุดก็สูงถึงหลักแสน สาวปูก็ยอมลงทุนเพราะรู้ดีว่าทุกลุคบนพรมแดงคือตัวแทนของความภาคภูมิใจของคนไทย

ปู ไปรยา เผยเบื้องหลังเส้นทางสู่พรมแดงคานส์
ปู ไปรยา เผยเบื้องหลังเส้นทางสู่พรมแดงคานส์

โดยสาวปูได้กล่าวต่ออีกว่า “ชุดราตรีหลักแสนนะ แต่ทุกครั้งที่ติดเบสท์เดรส แล้วคนไทยภูมิใจ มันคือความประทับใจของเรา แต่บางครั้งก็ยืม อยู่ที่ว่าแบรนด์นั้นมันมีสวยมั้ย หากไม่สวยเราจะยอมโดนด่าว่าพังเหรอ เรายอมจ่ายได้นะ”

Screenshot 2568 05 01 at 03.55.17

ในวันแรก ๆ ที่ยังไม่มีใครรู้จัก เธอยังต้องแนะนำตัวเองกับช่างภาพต่างประเทศเพื่อให้ได้พื้นที่ในสื่อ

“เราไม่สามารถเอาบังก์ให้หนักข่าวถ่ายรูปเราได้ แต่เราจะยืนจนกว่าจะถ่าย ทำไม จะถ่ายไหม ปูเดินไปบอกนักข่าวเลยชื่อ ไปรยา ลุนด์เบิร์ก เป็นนักแสดงจากเมืองไทย จนนักข่าวถ่ายลงเยอะมาก จากนั้นก็รู้จักเรา อยู่ที่ไหนถ้าเราไม่สดก็จบ เราไม่มีวันดัง” สาวปู กล่าว

เรียกได้ว่าเรื่องราวของสาวปูไม่ใช่เพียงแค่การเดินพรมแดง แต่คือบทพิสูจน์ว่าหากเรามีความฝัน กล้าลงมือ และไม่รอให้โอกาสวิ่งมาหา ชีวิตก็สามารถ “เปล่งประกาย” ได้ด้วยมือของเราเอง

ฟังคลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง

ขอบคุณข้อมูลจาก เงาะ ทีวี ngoa tv

อ่านข่าวที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่ ดูอะไร